หลังจากที่รัสเซียประกาศว่า จะลดระดับการโจมตียูเครน ซึ่งเป็นผลมาจากการเจรจาครั้งล่าสุดที่มีความคืบหน้าไปมาก แต่กลับพบว่า หลายเมืองในยูเครน โดยเฉพาะรอบ ๆ กรุงเคียฟ ยังคงถูกกองทัพรัสเซียโจมตีอย่างหนักตลอดทั้งวัน
วันที่ 31 มีนาคม 2565 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดใส่พื้นที่รอบ ๆ กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ตลอดทั้งวัน ถึงแม้ว่า รัสเซียประกาศว่า จะลดระดับการโจมตี และถอนทหารออกจากพื้นที่รอบ ๆ กรุงเคียฟ และทางเหนือของยูเครน
ด้าน นายวิทาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ออกมายืนยันว่า ไม่เป็นเรื่องจริง ทั้งนี้ตลอดค่ำคืนที่ผ่านมายังคงมีเสียงไซเรนจากรถพยาบาล รวมถึงเสียงขีปนาวุธ และเสียงระเบิดดังตลอดทั้งคืน จากพื้นที่ฝั่งตะวันออก และฝั่งเหนือของกรุงเคียฟ โดยการสู้รบยังคงรุนแรง และยังคงมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น จนถึงขณะนี้ยังไม่พบรายงานว่า รัสเซียได้ถอนกำลังทหารออกไปอย่างที่สัญญาไว้ในการเจรจา
อีกทั้ง รัสเซียยังไม่หยุดทิ้งระเบิด แม้สัญญาจะลดการโจมตี ส่วนเมืองเชอร์นิฮิฟที่อยู่ทางภาคเหนือของยูเครน และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่รัสเซียบอกว่าจะลดระดับการโจมตีเหมือนกัน อย่างไรก็ตามการโจมตีของรัสเซียกลับรุนแรงขึ้นกว่าเดิมในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 25 คน ซึ่งวลาดีสลาฟ แอสโทรเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองเชอร์นิฮิฟ บอกกับทางซีเอ็นเอ็นว่า นี่คือหลักฐานยืนยันว่ารัสเซียกำลังโกหก
รัสเซียยังไม่หยุดทิ้งระเบิด แม้สัญญาจะลดการโจมตี ผู้นำของยูเครนและชาติตะวันตกยังคงไม่เชื่อคำพูดของรัสเซียเรื่องการลดการโจมตี โดยมองว่าอาจจะเป็นการถ่วงเวลาหรือหาข้ออ้าง ในการจัดกองกำลังที่บุกยึดกรุงเคียฟไม่สำเร็จให้มารวมกันได้ใหม่ ซึ่งสหรัฐฯ เตือนว่ารัสเซียอาจจะส่งเสบียง ส่งอาวุธ ให้ทหารกลุ่มนี้พร้อมทำการรบอีกครั้ง แต่รัสเซียประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าปฏิบัติการทางทหารในกรุงเคียฟได้บรรลุเป้าหมายแล้ว เพราะสามารถทำลายเป้าหมายทางการทหารได้ตามที่วางแผนเอาไว้ และต่อจากนี้รัสเซียจะขอมุ่งเน้นไปที่การสู้รบเพื่อปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกให้เป็นอิสระจากยูเครน