'ทนายษิทรา' แฉ มีหญิงสาวถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลามและข่มขืน ร้องเรียนเข้ามาแล้วมากกว่า 10 ราย เหยื่อไม่กล้าแจ้งความ เพราะถูกข่มขู่ บางรายถึงขั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และบินหนีต่างประเทศ
จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุ มีหญิงสาวมาขอคำปรึกษา เนื่องจากถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หลังถูกหลอกให้คุยเรื่องงานและหุ้น มีทั้งการหอมแก้ม กอดจูบ จับก้น โดยไม่สมยอม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะนักการเมืองคนนี้มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง ซึ่งคุณแม่ของน้องผู้เสียหายก็ได้ปรึกษาทนายตั้มผ่านทาง LINE Official แล้ว
หลังจากที่ได้ข้อมูลเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มากพอ วันนี้ ช่วง 13.40 น. ทนายตั้มเดินทางเข้ามาติดตามความคืบหน้าคดีนี้ที่ สน.ลุมพินี พร้อมนำหลักฐานที่มีเข้ามามอบให้ตำรวจเพิ่ม ก่อนเปิดเผยว่า ผู้เสียหายรายล่าสุดนี้ยังเป็นนักศึกษาอายุ 18 ปี กำลังเรียนอยู่ในระบบนอนดีกรี เทียบเท่ากับว่าเป็นนักศึกษาชั้นปี 4 ของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง และได้มารู้จักกับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเคยไปบรรยายวิชาการ เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนและเศรษฐศาสตร์ให้หนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่นักศึกษาสาวให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อวันที่11 เมษายน จึงขออนุญาตคุณแม่ไปทานอาหารด้วยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 11 แต่เมื่อไปถึงกลับถูกลวนลาม ทั้งจูบ หอม จับก้น แบบที่น้องไม่ได้สมยอม แต่ก็ไม่สามารถร้องให้ใครช่วยได้ เนื่องจากโต๊ะรอบข้างเป็นชาวต่างชาติและโต๊ะก็อยู่ห่างกัน จากนั้นเมื่อกลับบ้านน้องไม่กล้าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับคุณแม่ฟัง เพราะแม่ของเหยื่อชอบพรรคการเมืองนี้มาก เพราะเป็นคนพูดจาดี
จนกระทั่งช่วงเที่ยงคืน คุณแม่ทราบเรื่องในวันที่ 12 เมษายน เสียความรู้สึกมาก จึงตัดสินใจเข้าปรึกษาทนายตั้ม และพาน้องเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ลุมพินี ซึ่งเมื่อวานนี้ (13 เมษายน) ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานกล้องวงจรปิดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่เคยใช้ร้านอาหารแห่งนี้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ซึ่งหลังจากที่มีการเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป ก็ได้มีเหยื่ออีก 3 ราย ร้องเรียนเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งมีอายุประมาณ 18 ปีทั้งหมด รายหนึ่งอยู่ที่ จ.ราชบุรี มีแม่ทำงานในพรรคเดียวกัน อีกรายถูกข่มขืนจนต้องหนีไปประเทศอังกฤษ อีกรายโดนลวนลาม ซึ่งเหยื่อบางรายถูกพาขึ้นคอนโดส่วนตัวด้วย ซึ่งตลอดการให้ข้อมูลเหยื่อร้องไห้ตลอดเวลา บอกว่า แม้จะพยายามขัดขืน และหลบหลีกแล้ว แต่นักการเมืองคนนี้ก็ยังคงก่อเหตุ
นายษิทรา ระบุว่า หากรองหัวหน้าพรรคคนนี้บอกว่า ตัวเองไม่ผิด เมื่อวานนี้ทำไมถึงต้องพยายามโทรไปขอโทษผู้เสียหายและแม่เขา ถ้าไม่ยอมรับก็อยากจะให้ออกมาปฏิเสธให้ชัดเจนไปเลย และเชื่อว่าจะนำแชตที่คุยกับแม่เหยื่อ ก่อนที่จะทราบเรื่อง มาแสดงแน่นอน
จากการตรวจสอบตอนนี้พบว่า มีเหยื่อถูกลวนลามรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คน ในจำนวนนี้ถูกข่มขืนประมาณ 5-6 คน ซึ่งรองหัวหน้าพรรคการเมืองนี้มีพฤติกรรมการก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2556 และเมื่อปีที่แล้ว 2564 ก็มีคนตกเป็นเหยื่อโดนข่มขืนอีก จนเป็นโรคซึมเศร้า และต้องหนีไปต่างประเทศ ซึ่งเหยื่อทุกรายไม่มีใครกล้าเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะคนก่อเหตุมักจะข่มขู่เหยื่อ อ้างว่าพ่อมียศตำแหน่งใหญ่โต
นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังมีรสนิยมชอบเหยื่อที่มีอาการขัดขืน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก ทนายตั้มจึงอยากฝากบอกเกือบทุกคนที่โดนกระทำในลักษณะนี้ ให้เลิกกลัวและออกมาแจ้งความเอาผิด เพราะโทษของคดีนี้มาอายุความถึง 20 ปี ซึ่งส่วนตัวเขาเองไม่กลัวที่จะถูกฟ้อง เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ทั้งนี้ในเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ล่าสุด (14 เม.ย.) เวลาราว 13.00 น. ยังได้โพสต์ข้อความว่า
"อัพเดทข่าวเบื้องต้น รองหัวหน้าพรรคดัง มีพฤติกรรมชอบลวนลามเด็กสาววัย 18 เหยื่อติดต่อเข้ามาในไลน์ษิทราลอส์เฟิร์มนับสิบราย นอกจากนั้นในเพจข่าวยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในขณะเรียนอยู่ลอนดอน ประเทศอังกฤษก็มีพฤติกรรม Sexual Harrasment [ในกระทู้ข่าวเขียนถึง Rape ซึ่งแปลว่าข่มขืน] สำหรับผมมองว่าในตำแหน่งหน้าที่การงานที่ใหญ่ขนาดนี้ มันเป็นอันตรายกับเด็กผู้หญิงหลายคน เท่าที่ดูคือชอบเรียกเด็กเข้ามาฝึกงาน แล้วจบด้วยการแต๊ะอั๋ง บางคนถึงขนาดกระทำชำเราและกลายเป็นผู้ป่วยซึมเศร้า เหยื่อแต่ละคนไม่กล้าดำเนินคดี เพราะพ่อของผู้กระทำความผิดมีตำแหน่งใหญ่โต แบ็กดี วันนี้ผมเลยขอเสี่ยงเปิดเผยความเป็นจริงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย ยังไงผมขอให้ทางพรรคทำการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยครับ ส่วนเจ้าตัวไม่ต้องมาชี้แจงอะไรกับผมหรอก ไปตามหมายเรียกก็พอ เพราะเหยื่อเริ่มทยอยไปให้การกับเจ้าหน้าที่แล้ว ตัวผมยอมเสี่ยงหมิ่นประมาทครับ ถ้ากล้าก็มา เพราะหลักฐานผมแน่นจริง ๆ"