"นายกฯ" กำชับอำนวยความสะดวก-ความปลอดภัยประชาชนเดินทางกลับเข้า กทม. และพื้นที่เขตเศรษฐกิจ หลังเทศกาลสงกรานต์ ขอประชาชนเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎจราจรควบคู่มาตรการป้องกันโควิด-19
วันที่ 17 เมษายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามรายงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย ศปถ. รายงานสรุป 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ สะสม 5 วัน (11 - 15 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ดื่มแล้วขับ ตัดหน้ากระชั้นชิด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จักรยานยนต์ 81.47% รองลงมา คือรถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 7.17% และรถยนต์นั่ง 2.79% จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุ/ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต สะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม บึงกาฬ ปราจีนบุรี ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้คุมเข้มโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุและมีผู้สูญเสียสูงสุด ให้เข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ตั้งแต่เมื่อวาน (16 เม.ย. 65 ) ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นในเส้นทางหลัก และเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ศปถ.ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง คุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ตั้งกรวยริมไหล่ทาง ปิดจุดกลับรถ เป็นต้น นอกจากนี้ ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 16-18 เม.ย. 65 ประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ
“นายกรัฐมนตรีย้ำขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน หน่วยทหารในพื้นที่ ภาคประชาสังคม รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ชุมชน หมู่บ้าน อาสาสมัครต่าง ๆ และประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อมในช่วงเทศกาลให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งฝากถึงพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ภายใต้การรณรงค์ ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ พร้อมกับขอให้ประชาชนผู้เดินทางเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ซึ่ง 1-2 วันนี้เป็นช่วงการทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เข้ากรุงเทพฯ และพื้นที่เขตเศรษฐกิจ โดยขอความร่วมมือให้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอก่อนออกเดินทาง ให้เพิ่มความระมัดระวังเพราะอาจอ่อนเพลียเหนื่อยล้า ซึ่งอาจทำให้เกิดการหลับในได้ รวมทั้งงดดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นที่มีการจราจรหนาแน่น และขอให้เคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา สังเกตอาการตนเองหลังเดินทางกลับมาแล้ว ควรตรวจ ATK คัดกรองตัวเอง เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนปลอดโรคปลอดภัยตลอดช่วงสงกรานต์นี้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว