'วิทยา แก้วภราดัย' ลาออก ปชป. รับไม่ได้ กก.บริหารพรรค ไม่รับผิดชอบกรณี 'ปริญญ์' เตือนอย่าให้ช้ำจนไม่เหลือชื่อประชาธิปัตย์
วันที่ 22 เม.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อเจ้าหน้าที่พรรคเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้
นายวิทยา เปิดเผยว่า ยังไม่ได้เรียนให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับทราบด้วยตัวเอง แต่ได้ฝากนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ไปแจ้งต่อนายชวนให้รับทราบแล้วเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกครั้งนี้นั้น เพราะอยู่พรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์นานที่สุดในชีวิตการเมือง ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้นพรรค โดยเฉพาะกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่สร้างความเสียหายให้กับพรรค จึงอยากให้กรรมการบริหารพรรคแสดงความรับผิดชอบ และแสดงสปิริตกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้มากกว่านี้ เพราะเรื่องมาตรฐานจริยธรรมต้องสูงกว่ากฎหมาย พรรคไม่ผิด แต่มีคนผิด ดังนั้นต้องมีคนรับผิดชอบ เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคชุดนี้เป็นคนชักจูงนายปริญญ์เข้ามาอยู่ในพรรค ถือเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
ทั้งนี้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะไม่เหลือพรรค แต่อย่างไรก็ตามส่วนตัวยังคงรักพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพร้อมกลับมา หากมีการเปลี่ยนแปลง และขอย้ำว่าการตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นเรื่องภาพลักษณ์ และความรู้สึกของประชาชนล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับว่าพรรคจะไม่ส่งลงผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เพราะมีชื่อลงสมัครอยู่แล้ว
“อย่าให้พรรคช้ำจนไม่เหลือชื่อประชาธิปัตย์ ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะไม่เหลือพรรค คำว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแบบนี้ เพราะเราถูกสอนมาว่าต้องรู้จักรับผิดชอบต่อสังคม และความรู้สึกของประชาชน ไม่ใช่เกาะเกี่ยวเหนียวติดอยู่กับตำแหน่ง ผมถูกฝึกมาอย่างนั้น พรรคเป็นของทุกคน พรรคก็เป็นของผม แต่ผมต้องหาคนรับผิดชอบให้ได้ เมื่อไม่มีใครรับผิดชอบ ผมต้องเลือกปกป้องพรรค” นายวิทยา กล่าว
เมื่อถามว่า หมายความว่าผู้บริหารพรรคควรแสดงสปิริตลาออกทั้งคณะ เพื่อแสดงความรับผิดชอบใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ควรคิดแบบนั้น เพราะพรรคถูกทำร้าย พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่มีมายาวนาน อยากเห็นพรรคอยู่ต่อไปได้ แต่เมื่อคนในพรรคทำผิด ผู้บริหารพรรคก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะสมัยที่ตนเองเป็น รมว.สาธารณสุข ก็เคยถูกพาดพิง ก็แสดงความรับผิดชอบ ย้ำว่า เป็น ส.ส.มา 30 กว่าปี อยู่มาหลายพรรค และคิดว่าจะอยู่พรรคประชาธิปัตย์นานที่สุด ใครก็อิจฉา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ประชาชนที่เป็นเจ้าของพรรคจะคิดอย่างไร จึงเป็นสาเหตุทำให้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคครั้งนี้
เมื่อถามต่อว่า ได้ตัดสินใจหรือยังว่าจากนี้จะไปร่วมงานการเมืองกับพรรคไหนต่อไป นายวิทยา กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้ตัดสินใจ ตอนนี้ขออยู่นิ่ง ๆ ก่อน แต่คิดว่าตัวเองยังมีน้ำยา ส่วนจะไปร่วมงานกับพรรคไหนต่อไปนั้น มองว่าต้องเป็นคนที่พร้อมเสียสละเพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีคนเข้ามาพูดคุยทาบทามไปร่วมงานด้วยหลายคน แต่ ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ