ตร.ขอโทษปมเเพร่ภาพบาดเเผล ตปท. เทียบเเผลเเตงโม ยันไร้เจตนาบอกเกิดจากใบพัดเรือ เเค่สื่อให้เห็นเเผลตัวเอส ไม่ตอบเสนอข้อมูลเท็จ กลัวถูกดำเนินคดีหรือไม่
วันที่ 28 เม.ย. 2565 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และคณะพนักงานสอบสวน แถลงเพิ่มเติมใน คดีของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ"เเตงโม " นักเเสดงสาว ตกเรือสปีดโบ้ต เสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังก่อนหน้านี้มีการสรุปสำนวน พร้อมความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 5 คนบนเรือ รวมทั้งกุนซือต่ออัยการจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังมีข้อกังขาของสังคม ในหลายประเด็น โดยเฉพาะภาพบาดแผล ที่ตำรวจมีการนำมาอ้างอิงในวิดีทัศน์การแถลงสรุปสำนวน ว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือ ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมามีผู้ใช้สื่อออนไลน์ได้สืบค้นรูปภาพและสื่อต่างประเทศและสื่อท้องถิ่น มีการรายงานว่า ภาพที่ปรากฏเป็นข่าวจริง เหตุเกิดที่เมืองสแตฟฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เมื่อ 20 ก.พ. 2562 หญิง อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บ ขณะเต้นรำในงานเลี้ยง แต่ตำรวจสแตฟฟอร์ด เชอร์ ระบุ บาดแผลยังไม่ทราบสาเหตุ อยู่ระหว่างสืบสวน ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสับสนและไม่มั่นใจในกระบวนการสอบสวนของ ตำรวจภูธรภาค 1
พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 ชี้แจงว่า ภาพที่เกิดปัญหา เราหยิบยกอ้างอิง เพื่อต้องการอธิบายลักษณะของบาดแผลที่มีลักษณะการโค้งเว้า ซึ่งในวีดิทัศน์ที่แถลงข่าว เราใช้คำว่า “บาดแผลที่มีการโค้งเว้า ลักษณะเช่นเดียวกัน” ในกรณีนี้เราไม่สามารถแสดงภาพบาดแผลจากศพมานำเสนอได้ (ซึ่งเป็นข้อจำกัดทางกฎหมาย) จึงได้นำภาพดังกล่าวหยิบยกลักษณะที่คล้ายกันมาให้ดูเป็นตัวอย่าง /ยืนยันต้องการสื่อถึงรูปบาดแผลที่มีลักษณะเป็นรูปตัวเอสเท่านั้น ไม่มีเจตนาบอกว่าบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ โดยภาพบาดแผลนั้น สามารถค้นหาได้ทาง google โดยใช้ KEY WORD “ BOAT PROPELLER WOUND ซึ่งมีทั้งบาดแผลในคนและสัตว์ โดยตำรวจได้ศึกษางานวิจัยของต่างประเทศ ในเรื่องคนที่ถูกใบพัดเรือฟันในลักษณะต่าง ๆ
ทั้งนี้ ตำรวจไม่สามารถปิดบังบิดเบือนข้อเท็จจริงพยานหลักฐานได้ ในกรณีนี้ตำรวจขออภัย ที่นำภาพไม่ได้อ้างถึงแหล่งข้อมูลที่มาของภาพทำให้การนำเสนอ ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจในภาพดังกล่าวกำกวมสงสัย แต่เจตนาจริง ๆ ในการนำภาพบาดแผลดังกล่าวนำมาเพื่อเปรียบเทียบ จะนำเสนอให้เห็นบาดแผลที่มีลักษณะรูปตัวเอสเท่านั้น ทั้งนี้ การนำภาพมานำเสนอถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้นไม่กระทบ และไม่ได้ทำให้สาระสำคัญของคดี มีการเปลี่ยนแปลงไป
ด้าน พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 ชี้แจงภาพที่มีการนำเสนอไปเป็นภาพที่มีลักษณะโค้งเว้าตัวเอส จึงได้สื่อภาพนั้นออกไปให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งก็มีภาพหลายภาพ แต่ทีมงานไปหยิบยกภาพดังกล่าวขึ้นมา ก็ยอมรับว่าเป็นการทำงานแบบไม่ครบถ้วน
ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องแพทยสภาให้ตรวจสอบทีมแพทย์นิติเวช ส่อผิดจรรยาบรรณ เรื่องจำนวนแผลเรื่องที่พบจาก 11 แผล เป็น 22 แผล และ 26 แผล ในวันที่แถลงสรุปสำนวน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่า ผลการชันสูตรบาดแผล ขณะนี้อยู่ในสำนวนการสอบสวน ถูกส่งไปที่อัยการจังหวัดนนทบุรีแล้ว ตำรวจไม่มีอำนาจในการสอบสวนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยระหว่างที่กำลังลุกออกจากโต๊ะเเถลง ผู้สื่อข่าวพยายามตะโกนถามว่าภาพที่นำเสนอเป็นข้อมูลเท็จ กังวลจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้หันมามองเเละไม่ตอบคำถาม ก่อนจะเดินทางจากไปทั้งคณะ โดยที่ไม่หันมามองผู้สื่อข่าวที่พยายามวิ่งตาม
ขณะที่ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงชี้แจงในวันนี้ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้มารับฟังข้อมูลในฐานะประชาชน ไม่ได้มากดดันเจ้าหน้าที่ และไม่ขอตอบอะไรมาก จากนี้ก็จะนำข้อมูลมาประชุมกับ ทีมงาน ส.ส.เต้ อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้มีประเด็นในใจอยู่แล้ว 50/50 เมื่อย้ำถามว่าเป็นเรื่องฆาตกรรมหรือไม่ ทนายกฤษณะ บอกว่าเป็นประเด็นที่เคยตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว