ชาวเเม่รำพึง อ.บางสะพาน จัดเวทีวิพากษ์กำเเพงกันคลื่น ยันกรมโยธาฯ ต้องยกเลิก หากไม่ฟังเสียง เตรียมยกระดับเคลื่อนไหว ฟากนักวิชาการชี้ไม่จำเป็นต้องมีโครงการฯ - ส.ส.ประเสริฐพงศ์ เล็งชงสภาฯ ตัดงบฯ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่ม Saveหาดแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมบอกรักชายหาดแม่รำพึง อ.บางสะพาน โดย เชิญนักวิชาการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมเสวนาเชิงวิพากษ์ โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง ดำเนินการก่อสร้างโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 79,000,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม Save หาดแม่รำพึงบางสะพาน ชี้ว่าการดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง โดยกรมโยธาธิการฯ ไม่มีความชอบธรรมในการดำเนินโครงการ เนื่องจากไม่มีการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องต่อประชาชนในประเด็นผลกระทบของโครงการ ที่ผ่านมากลุ่ม Saveหาดแม่รำพึงได้ดำเนินการร้องขอข้อมูลต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนถึงตอนนี้ผ่านไป 2 สัปดาห์แล้ว ยังไม่มีการตอบรับในการให้ข้อมูลที่ทางกลุ่มร้องขอไป อีกทั้งมองว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวของกรมโยธาธิการและผังเมืองนั้น ไม่มีความจำเป็นเนื่องจากพื้นที่ชายหาดไม่กัดเซาะชายฝั่งรุนแรง
น.ส.บุญจิรา เผดิมรอด ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้กำหนดให้พื้นที่ชายหาดแม่รำพึงนั้นอยู่ในสถานภาพเป็นชายหาดสมดุล และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยมาตรการปรับสมดุลชายฝั่ง ดังนั้นแนวทางของกรมโยธาธิการและผังเมืองที่มีการดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นนั้น จึงไม่สอดคล้องกับแนวทางที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดแม่รำพึง
ด้าน ผศ.ดร.สมปรารถนา ฤทธิ์พริ้ง กล่าวว่า ชายหาดแม่รำพึงในพื้นที่ดำเนินโครงการมีความกว้างของชายหาดเฉลี่ยอยู่ที่ 30 กว่าเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับพื้นที่ชายหาดอื่น ๆ ในประเทศไทยถือว่า มากกว่า ความกว้างเฉลี่ยของชายหาดทั่วไปของประเทศไทย เมื่อนำข้อมูลโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นของกรมโยธาธิการที่จะดำเนินการมาเทียบกับความกว้างของชายหาดแม่รำพึง จะพบว่า กำแพงกันคลื่นของกรมโยธาธิการมีความความประมาณ 18 เมตร ซึ่งจะวางทับชายหาดแม่รำพึงไป ทำให้หาดแม่รำพึงกลายเป็นกำแพงคอนกรีต และยังไม่รวมผลกระทบของกำแพงกันคลื่นที่จะสะท้อนทรายออกไปนอกชายฝั่ง ทำให้หาดทรายหายไป
ขณะที่นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานกรรมธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งฯ กล่าวยืนยันว่า ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะใช้อำนาจในทางนิติบัญญัติ และในฐานะกรรมาธิการ ติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง พร้อมยืนยันต่อไปว่า ที่ผ่านมาโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นในพื้นที่ชายหาดต่าง ๆ เช่น หาดทรายแก้ว จ.สงขลา หาดม่วงงาม หรือหาดปราณบุรี ไม่ประสบความสำเร็จและส่งผลกระทบต่อชายหาดอย่างรุนแรง ดังนั้นในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล ซึ่งจะพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่กำลังเข้าสภา จะตัดงบประมาณโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่ส่งผลกระทบต่อชายหาด โดยเฉพาะหาดแม่รำพึง เพื่อให้การใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นไปอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
ในช่วงท้ายของเวทีเสวนา เครือข่ายประชาชน Saveหาดแม่รำพึงบางสะพาน ได้กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า หากกรมโยธาธิการและผังเมือง ยังคงเดินหน้าโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง โดยไม่ฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่ ทางเครือข่ายจะยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นดังกล่าว