“นายกฯ” โอดคนโจมตี หลังวานนี้แถลงญี่ปุ่นให้กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ 50,000 ล้านเยน บอกอยู่ในกรอบ ย้ำบริหารงบฯ ด้วยความระมัดระวัง
วันที่ 3 พ.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งมีการแถลงสภาวะทางเศรษฐกิจในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกสินค้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นมา มีเที่ยวบินเพิ่ม และมีนักท่องเที่ยววันละ 10,000 คน และจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้ลดการประมาณการเศรษฐกิจอยู่ที่ 3.5% จากเดิมคาดการณ์ไว้ว่า 4.0 %
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ 3 มาตรการเร่งด่วน เพื่อป้องกันและลดผลกระทบอุทกภัย แผนการจัดการพื้นที่ลุ่มต่ำหรือแก้มลิง เพื่อรองรับน้ำฝน การเพิ่มพื้นที่รับน้ำระบายน้ำ แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่องประตูน้ำ ที่ชำรุดการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำหรือคูคลอง ทุกอย่างต้องมีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
นอกจากนี้ เห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 พ.ศ. 2566 - 2570 จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ออกแบบแผนตามหลักคิด 4 ประการ เศรษฐกิจพอเพียง ความสามารถที่จะล้มและลุกให้ไว และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ เศรษฐกิจสีเขียว โดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 มีอยู่ 5 ประการ คือการปรับโครงสร้างการผลิต สู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่ การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม การเปลี่ยนผ่านผลผลิตและการบริโภคไปสู่ความยั่งยืน การเสริมสร้างความสามารถของไทยในการรับมือความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกยุคใหม่ รายได้ต่อหัวอยู่ที่ 300,000 บาท
ส่วนคำถามเรื่องการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าได้มอบหมายให้นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตอบแทน เรื่องการเมืองเรื่องอะไรก็แล้ว แต่เขียนไปแล้ว มีอะไรก็สอบถามได้ ยืนยันว่า วันนี้ทำอย่างไรให้ประเทศเข้มแข็งที่สุด มีความรักความสามัคคี และทุกคนก็ต้องทราบถึงปัญหา วันนี้มีหลายปัญหา ที่อยู่นอกการควบคุมของเรา ที่ทำไม่ได้มากนักในการแก้ไขปัญหาให้เร็วขึ้น ซึ่งก็ต้องพยายามหาวิธีการที่เหมาะสม ทำอย่างไรให้ทั่วถึงและจะดูแลประชาชนให้เพียงพอ ซึ่งอาจจะไม่ได้อย่างที่ทุกคนต้องการ แต่ก็จะดูแลให้ได้มากที่สุดทุกกลุ่ม
ส่วนเรื่องเงินกู้ก็ขอให้ไปถามนายธนกรเช่นกัน ก็พร้อมบอก ตนเองนึกอยู่แล้ว ว่าพอบอกญี่ปุ่นให้กู้เงินเท่านั้น ก็รุมเล่นงานว่านายกฯ จะกู้อีกแล้ว จริง ๆ แล้วเงินกู้ยอดนี้อยู่ในยอดเงินกู้ 500,000 ล้านบาท ที่อนุมัติไปแล้ว การกู้เงิน ไม่ว่าจะล้านล้านหรือ 50,000 ล้าน ก็ค่อย ๆ ทยอยกู้มา แต่จะกู้ในประเทศเป็นหลัก แต่ญี่ปุ่นเข้ามาพูดตรงนี้ ถ้าเราจะกู้เขาก็ให้ในดอกเบี้ยต่ำ แต่ก็มีข้อแม้ว่า ต้องดูแลในเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การพัฒนาในเรื่องการตรวจคัดกรอง จังหวัดชายแดน จากประเทศรอบบ้าน
การกู้เงินทุกอย่างอยู่ในขั้นตอน อย่าว่ารัฐบาลกู้เงินอีกแล้ว ทุกคนต้องเข้าใจว่าเราต้องบริหารด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด แล้วเรื่องการบริหารการเงินการคลัง เราเข้มแข็ง หากไม่เข้มแข็งพอขอใครเขาก็คงไม่ให้กู้ ก็เท่าที่จำเป็น แต่ก็ต้องดูว่าจำเป็นหรือเปล่า กู้มาแล้วทำอะไร ใครได้ประโยชน์ วันนี้ก็ดูแลคนไปหลายสิบล้านคน และได้รับความชื่นชมจาก WHO เป็นตัวอย่างในภูมิภาคของเราและภูมิภาคอื่นๆ พวกเราต้องเข้าใจ นายกรัฐมนตรีไม่เคยทอดทิ้งใคร เพียงแต่จะทำได้มากน้อยเท่าไร