"ก้าวไกล" เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาค่าครองชีพขึ้น แนะอัดฉีดเงินตรงจุด พร้อมขอร้องผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้า
วันที่ 8 พ.ค.2565 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีค่าครองชีพและราคาสินค้าที่เตรียมปรับขึ้นแบบหน้ากระดาน มีสินค้าที่ปรับขึ้นราคากว่า 270 รายการ และเมื่อย่างเข้าเดือน พ.ค. สินค้าก็กำลังทยอยปรับราคาขึ้นแบบหน้ากระดานเพิ่มขึ้น เช่น ไข่ไก่ เบอร์ 4 จาก 3.50 บาท เป็น 4 บาทต่อฟอง, หมูเนื้อแดงปรับขึ้นเป็น 200 บาท ต่อ ก.ก., บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปรับขึ้นซองละ .50-1 บาท เป็นซองละ 7 บาท, เครื่องดื่มชูกำลัง ขึ้นเป็น 12 บาทต่อขวด, น้ำมันดีเซล จาก 30 บาท เป็น 32 บาทต่อลิตร, แก๊สหุงต้มขึ้นเป็น 348 บาทต่อถัง เป็นต้น
โดยการขึ้นราคาสินค้าแบบหน้ากระดานเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ และพิสูจน์ให้เห็นว่ามาตรการที่รัฐบาลใช้อยู่นั้นไปต่อไม่ได้แล้ว เช่น การอุดหนุนราคาสินค้าบางรายการ เช่น ราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้ม มาถึงจุดที่รัฐบาลอุดหนุนต่อไม่ไหว ส่วนการขอร้องผู้ประกอบการให้ช่วยตรึงราคาสินค้า ผู้ประกอบการก็ตรึงราคาเอาไว้ไม่ไหวเช่นกัน
ที่น่ากังวล คือนี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดการขึ้นราคาสินค้า ขณะที่เงินเฟ้อ ซึ่งเป็นราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ขึ้นเพียง 4.65% แต่ฝั่งต้นทุนของผู้ประกอบการขึ้นไปรอถึง 12.8% เท่ากับว่าการที่ราคาสินค้ายังไม่ขึ้นตอนนี้ เป็นการแบกรับจากฝั่งผู้ประกอบการ แต่ไม่สามารถส่งผ่านราคามาที่ผู้บริโภคได้ เนื่องจากกำลังซื้อที่หดตัวลง ดังนั้น จากมาตรการบรรรเทาค่าครองชีพที่รัฐบาลได้ประกาศมา ว่าตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไปจะมีออกมา 10 มาตรการ ที่ส่วนใหญ่แล้วมีลักษณะจำกัดมาก เช่น มาตรการช่วยค่าแก๊สหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, มาตรการส่วนลดค่าแก๊สหุงต้มให้หาบเร่แผงลอย, มาตรการอุดหนุนค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์สำหรับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง, มาตรการช่วยลดค่าไฟสำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย, การคงราคา NGV/LPG สำหรับแท็กซี่, การลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นมาตรการที่เฉพาะกลุ่มมากๆ และยังไม่ทั่วถึง ไม่ครอบคลุมประชากรในแต่ละกลุ่ม และต่อปัญหาค่าครองชีพในขณะนี้
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่าสิ่งที่ต้องเรียกร้องและถามไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ คือจากนี้ไปจะมีมาตรการอื่นออกมารองรับปัญหาค่าครองชีพของประชาชนอีกหรือไม่ หรือจะเป็นการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าต่อไป ซึ่งทำไม่ได้จริง พร้อมเสนอว่า ควรต้องมีการเติมเงินในฝั่งรายได้ โดยการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชนโดยตรง เป็นเงินสดหรือผ่านแอพพลิเคชันแบบที่ทำมาก็ได้ เพราะในขณะนี้ไม่มีทางเลือกอื่น เนื่องจากราคาสินค้าที่ขึ้นแบบหน้ากระดาน ที่ทำให้การช่วยเหลือแบบเฉพาะกลุ่มไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
"ถ้าเราเติมค่าครองชีพให้กับประชาชน ธุรกิจรายย่อยที่รับสินค้ามาแพงอยู่แล้ว จะสามารถส่งผ่านราคาไปให้ผู้บริโภคได้ สามารถขายราคาที่แพงขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่ทุกคน รวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจ ก็จะยังเดินต่อไปได้ ไม่ชะงักงันแบบทุกวันนี้"
น.ส.ศิริกัญญา ยังแถลงต่อถึงการพิจารณางบประมาณปี 2566 วาระที่ 1 ที่จะเกิดขึ้นในสมัยประชุมสภาที่จะมาถึงนี้ ซึ่งจะเป็นงบประมาณก้อนสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะมีการจัดกิจกรรม “แฮ็กกาทอน” เชิญชวนประชาชนร่วมการตรวจสอบงบประมาณประจำปีไปด้วยกันกับพรรคก้าวไกล โดยกิจกรรมจะมีขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านทางเพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกลได้