ตำรวจ บก.ปปป. สอบปากคำเจ้าอาวาสวัดบุปผาราม คลี่คลายประเด็นแต่งตั้ง “อดีตพระกาโตะ” เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ หลังเกิดข้อสงสัยมีตำแหน่งเป็นเจ้าพนักงาน ขณะยืมเงินวัด 6 แสนบาท 


วันที่ 8 พ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ลงพื้นที่วัดบุปผารามวรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าไปพูดคุยและสอบถามกับทาง “พระราชวรญาณ” เจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร ในฐานะพยาน เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในประเด็นการแต่งตั้ง “อดีตพระกาโตะ” เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการแต่งตั้งถูกตามขั้นตอน รวมถึงมีหนังสือลายลักษณ์อักษรเป็นหลักฐานหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “ อดีตพระกาโตะ” มีการยืมเงินวัด 6 แสนบาท เพื่อนำไปให้สีกาตองและเคลียร์ข่าวฉาว

โดยหากในขณะนั้น “อดีตพระกาโตะ” เป็นรักษาการเจ้าอาวาสจริง ก็จะถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย และจะเข้าข่ายมีความผิดทางอาญาฐานยักยอกเงิน แต่หากไม่มีการแต่งตั้งถูกตามขั้นตน “อดีตพระกาโตะ” ก็จะไม่ใช่เจ้าพนักงาน และอาจต้องถูกดำเนินคดีฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำผิด หรือความผิดฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมแทน

ภายหลังการพูดคุยประมาณครึ่งชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเปิดเผยว่า สำหรับเจ้าอาวาสวัดบุปผาราม มีความสัมพันธ์กับวัดเพ็ญญาติมีลักษณะเป็นวัดเครือญาติกัน เพราะหลวงพ่อกล่อม อดีตเจ้าอาวาสและผู้ก่อตั้งวัดเพ็ญญาติ เป็นญาติกับเจ้าอาวาสวัดบุปผาราม ภายหลังหลวงพ่อกล่อมมรณภาพ ได้ฝากฝังให้เป็นผู้ดูแล โดยมีการแต่งตั้งจากเจ้าคณะตำบลในพื้นที่ให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติและมีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการได้ปีกว่า ๆ โดยเจ้าอาวาสไม่ได้ลงไปดูแลวัดด้วยตัวเอง แต่จะลงไปเฉพาะงานสำคัญ ๆ

ส่วนกรณีการแต่งตั้งอดีตพระกาโตะเป็นรักษาการเจ้าอาวาสนั้น ในขณะนี้เท่าที่ได้ข้อมูล ยังไม่พบหลักฐานว่ามีการแต่งตั้งเป็นลายลักษณ์อักษร จึงน่าจะไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ยังไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงาน โดยหลังจากนี้ จะมีการนำข้อมูลดังกล่าวไปหาหรือกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  เพื่อหาแนวทาง และจะให้โอนคดีไปกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบหรือไม่  ในกรณีที่อดีตพระกาโตะไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน 

ขณะเดียวกัน จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าอาจจะมีเงินของวัดที่ถูกเบิกจ่ายออกไปโดยไม่ถูกต้องนอกเหนือจากยอดเงิน 6 แสนบาท ที่ถูกเบิกออกไปจากบัญชีวัดตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้  แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยยอดเงินได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนย้อนกลับไปตั้งแต่พระกาโตะเริ่มเข้ามาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส 

นอกจากนี้ได้มีการสอบปากคำไวยาวัจกรของวัดไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายระเอียดได้  ส่วนที่จะมีการกระทำความผิดในลักษณะเป็นขบวนการหรือไม่ ตอนนี้หลักฐานยังไปไม่ถึงขนาดนั้น

ทั้งนี้ มีรายงานว่าในสัปดาห์นี้จะมีการเชิญอดีตพระกาโต๊ะและสีกาตองเข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะครองสมณเพศ และที่ไปที่มาของเงินจำนวน 6 แสนบาท  และประเด็นอื่น ๆ ที่ตำรวจสืบสวนได้เพิ่มเติม  โดยจะแยกนัดหมายคนละวันเพื่อป้องกันความวุ่นวาย .