"ทนายเดชา" ชี้อัจฉริยะเปิดหลักฐาน ไม่ใช่เรื่องใหม่ เตือนระวังโดนเเจ้งความกลับ หลังนำศพมาเเถลงข่าว ไม่ขออนุญาตเเม่ ยันไม่เคยเห็นนายพล ว. ทำอะไรไม่ดี 

 

วันที่ 9 พ.ค. 2565 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของคุณแม่แตงโม เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ว่าการแถลงข่าววันนี้ ไม่เห็นว่าจะมีหลักฐานใหม่ โดยส่วนมากเป็นแค่การเอาคลิปจากรายการทีวีต่าง ๆ นำมาวิพากษ์วิจารณ์ในมุมมองของตนเอง และทำวีทีอาร์เลียนแบบการแถลงข่าวของตำรวจด้วย โดยมองว่า การแถลงของนายอัจฉริยะ เป็นการแถลงไปเรื่อย แต่ไม่ได้มีผลต่อคดี เพราะล่าสุด ทราบมาว่า ตำรวจได้สอบเพิ่มตามคำสั่งอัยการใกล้จะเสร็จแล้ว เมื่อเสร็จอัยการก็จะส่งฟ้องได้เลย และประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่ม ก็ไม่เกึ่ยวกับที่นายอัจฉริยะแถลงเลย และการแถลงข่าวครั้งนี้ ก็อาจจะทำให้มีคดีความเพิ่มขึ้นอีกหลายคดี เพราะมีผู้ถูกพาดพิงทำให้เสียหายจำนวนมาก ทั้งตำรวจ แพทย์นิติเวช และบุคคลอื่น ๆ

อย่างประเด็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอสเรือ ก็เป็นการวิจารณ์ตามความเข้าใจของตนเอง ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้อีกฝ่ายดูไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งเรื่องนี้ก็อาจจะโดนดำเนินคดีกลับได้

ทนายเดชา กล่าวถึงคลิปที่นายอัจฉริยะอ้างว่าแพทย์นิติเวช แอบนำร่างของแตงโมมาจำลองกับใบพัดเรือว่า ไม่รู้เป็นคลิปจริงหรือเท็จ ซึ่งถ้าจริง นายอัจฉริยะอาจจะถูกดำเนินคดี ฐานเอาความลับของราชการมาเปิดเผย อีกทั้งการเอาภาพศพมาแถลงข่าว โดยที่ไม่ได้มีการขออนุญาตคุณแม่ คุณแม่ก็จะดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นการตัดต่อคลิปเพื่อให้สังคมเข้าใจผิดหรือไม่

โดยเรื่องที่นำร่างออกมาจำลองนี้ ตนเองและคุณแม่ไม่เคยทราบมาก่อนเลย แต่อย่างไรก็ตาม การชันสูตร ถ้าทำโดยแพทย์นิติเวช ตามกฎหมายได้ให้อำนาจแพทย์ทำได้เต็มที่ ไม่จำเป็นต้องมาขออนุญาต และไม่เข้าข่ายการลักศพ และถ้าแอบทำจริง จะถ่ายคลิปวิดีโอไว้ทำไม แต่ในการชันสูตรปกติ แพทย์จะมีการถ่ายภาพไว้ทุกขั้นตอน ส่วนประเด็นเรื่องภาพในคลิปที่เห็นว่าแพทย์ทำในสถานที่ไม่เหมาะสม เรื่องนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้านายอัจฉริยะรู้รายละเอียด ก็ต้องเป็นคนไปแจ้งความ ส่วนตนเองกับคุณแม่ ขอฟังข้อเท็จจริง คำชี้แจงจากตำรวจก่อน แล้วจะปรึกษากันว่าจะดำเนินคดีกับใครหรือไม่

ส่วนที่นายอัจฉริยะ อ้างว่า การกระทำดังกล่าว ทำให้มีบาดแผลเกิดเพิ่มขึ้น นายอัจฉริยะก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าจริงอย่างไร และต้องให้ความเป็นธรรมกับแพทย์ที่จะชี้แจงและพิสูจน์ด้วย หากไม่จริง แพทย์ก็มีสิทธิ์ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ และประเด็นเรื่องการจำลองใบพัดด้วยมือ ไม่ใช่มอเตอร์ ตำรวจต้องทำตามหลักการที่มีผู้เชี่ยวชาญยืนยันได้อยู่แล้ว นายอัจฉริยะแค่เชื่อไปเองว่าผลจะออกมาไม่เหมือนกัน โดยไม่ได้มีความเชี่ยวชาญ

ส่วนประเด็นเรื่องแช็ตหลุด ทนายเดชา กล่าวในมุมมองว่า ภาพแช็ตใครจะทำขึ้นก็ได้ ต้องไปพิสูจน์โดยการส่งให้ ปอท. ตรวจสอบก่อน ถ้าเป็นแช็ตปลอม คนที่แถลงข่าวต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าจริง เจ้าพนักงานที่นำข้อมูลมาเปิดเผยก็มีความผิดตามมาตรา 157 ส่วนแพทย์ที่มาให้คำปรึกษาทางคดี แต่กลับนำข้อมูลมาเปิดเผย ก็ผิดจรรยาบรรณแพทย์เช่นกัน และหากเป็นแพทย์ที่รับราชการ ก็มีความผิดตามมาตรา 157 ด้วย

ทั้งนี้ ในเรื่องที่นายอัจฉริยะต้องการจะให้มีการเปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนนั้น นายอัจฉริยะเป็นแค่คนกล่าวโทษแซน แต่ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดี ไม่ใช่ผู้รับมอบอำนาจหรือทนายความคุณแม่ ซึ่งไม่ใช่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในคดี จึงไม่มีอำนาจจะไปสั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือใครก็ตามให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน และการจะโอนคดีไปที่กองปราบปราม ก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้การสอบสวนถือว่าเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่หากมีหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในสำนวนมาก่อน และเป็นหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องฆาตกรรมจริง ก็ให้เอาไปยื่นต่อตำรวจหรืออัยการ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นว่ามี

ทนายเดชา ยังระบุถึงกรณีพาดพิงถึง พลตำรวจตรี ว.แหวน ว่าเป็นผู้บงการการสร้างหลักฐานเท็จนั้น เท่าที่ได้พูดคุยกับตำรวจที่ทำคดี พลตำรวจตรีคนนี้ เป็นผู้ที่รับผิดชอบคดีนี้ และไม่เคยเห็นพฤติกรรมว่าจะทำอะไรไม่ดี หรือการสร้างหลักฐานเอกสารปลอม และในฐานะทนายความของคุณแม่ ก็มองตรงกันข้ามกันกับนายอัจฉริยะ ส่วนนายอัจฉริยะ จะมีความขัดแย้งกับพลตำรวจตรีเลยต้องออกมาพูดแบบนี้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่ทราบ

สำหรับประเด็นเรื่องคลิปเสียงที่นายตี๋อ้างว่าคุยกับเพื่อนของปอ ก็เป็นการคุยกับบุคคลภายนอก ไม่ใช่คนบนเรือ แต่เชื่อว่าตำรวจจะต้องเรียกนายตี๋ไปสอบสวน ซึ่งเท่าที่ทราบ นายตี๋เคยมีคดีความในพื้นที่ สน.หลักสอง และใช้บริการทนายความคนเดียวกับนายอัจฉริยะจึงมีความสนิทสนมกัน แต่นายตี๋ไม่ได้รู้จักกับคนบนเรือ และที่อ้างว่าเคยซื้อรถกับปอ ก็ต้องไปให้การกับตำรวจ ถ้าพบมูลความจริง ปอก็อาจจะโดนดำเนินคดีเพิ่ม แต่ถ้าเป็นเรื่องเท็จ ทั้งปอและตำรวจก็เอาผิดนายอัจฉริยะได้

ทนายเดชา กล่าวยืนยันว่า การออกมาแถลงข่าวของอัจฉริยะ ไม่มีผลต่อรูปคดีเลย เป็นการแถลงข่าวที่ทำให้มีสีสัน มีคอนเทนต์ที่จะโน้มน้าวคนในโซเชียลให้เชื่อว่าเป็นเรื่องฆาตกรรม และฝากบอกนายอัจฉริยะ ว่ามีหลักฐานอะไรก็ให้ปล่อยออกมาทีเดียว มันเสียเวลา และตำรวจเองก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีนายอัจฉริยะอีกหลายคดี และยืนยันว่า หลักฐานทั้งหมดที่ถูกนำมาเปิดเผย ไม่มีผลให้ต้องเปลี่ยนกำหนดการฌาปนกิจร่างแตงโม เพราะผ่าชันสูตรไปแล้วถึง 2 รอบ