"พี่เอ้ สุชัชวีร์" อ้อนขอคะแนนตลาดยิ่งเจริญ มั่นใจคนกรุงให้โอกาศคนมีพลังนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ - ย้ำผู้ว่าฯ กทม. ต้องรู้หลักบริหารน้ำท่วม มั่วซั่วไม่ได้ หากทำแบบเก่ากรุงเทพจมน้ำแน่! ระบุโค้งสุดท้าย งัดทุกไม้แล้วเพื่อมัดใจคนกรุง
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 พร้อมด้วย นางสาวสุชาดา เวสารัชตระกูล ผู้สมัครสก.เขตบางเขน ลงพื้นที่ตลาดยิ่งเจริญ พบปะพ่อค้าแม่ค้าประชาชนที่มาจับจ่ายในตลาดช่วงเช้า
นายสุชัชวีร์ ระบุว่า ภาพรวมการปราศรัยใหญ่ที่เขตบางขุนเทียนเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ประชาชนมากันหนาแน่น และอยู่ฟังจนจบการปราศรัย โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ประชาชนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะถึงเวลาแล้ว หากคิดแบบเดิมทำแบบเก่า กรุงเทพก็จะจม การที่ฝนตกก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 4 วัน เป็นการส่งสัญญาณ อย่างชัดเจนว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯต้องคิดให้ดี ต้องเลือกผู้รู้และมีความเข้าใจเรื่องน้ำ มิเช่นนั้นกรุงเทพจมน้ำแน่นอน
นายสุชัชวีร์ ระบุอีกว่า ระหว่างการหาเสียงที่ผ่านมา ได้พูดถึงในทุกนโยบายไปแล้ว ยังไม่มีนโยบายที่ยังไม่ได้พูดถึง ทุกนโยบายตกผลึกมาแล้ว เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่ทันสมัยเป็นต้นแบบของอาเซียน ภายใน 4 ปี ตนเองจะทำให้สำเร็จ และเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
นายสุชัชวีร์ย้อีกว่า การปราศรัยในช่วงโค้งสุดท้าย ได้งัดออกมาทุกไม้เด็ดแล้ว แต่ไม้ที่สำคัญที่สุดคือ “ตัวของตัวเอง” ที่มาด้วยความพร้อมที่สุด กรุงเทพต้องบริหารด้วยหลักวิชาการ ใครที่ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจจะเข้ามามั่วซั่วไม่ได้ ตนเองมาพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ต้องการเปลี่ยนกรุงเทพให้เป็นเมืองสวัสดิการเพื่อทุกคน ทั้งนี้มั่นใจว่าคนกรุงเทพ มีศักยภาพ เหลือแต่ผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ ที่ต้องผลักดัน และมั่นใจอีกว่าคนกรุงเทพฯจะให้โอกาสคนที่มีพลังและมีความชัดเจนมานั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ ราชการกรุงเทพมหานคร
นายสุชัชวีร์ ยังย้ำว่า ตนเองเชื่อในประชาชน เพราะตนเองและสก.ของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 50 เขต มีความชัดเจนตั้งแต่วันแรก ตั้งใจที่จะทำงานเพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้ อีกทั้งจากการลงพื้นที่ เห็นสายตาประชาชนก็เชื่อมั่นว่าตนเอง และสก. จะได้ทำงานอย่างแน่นอน
นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึง นโยบายดูแลพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ที่ถือเป็นห่วงโซ่สำคัญทางเศรษฐกิจ หากไม่ดูแลพ่อค้าแม่ค้าเศรษฐกิจก็เดินหน้าไม่ได้ และต้องขายได้ทุกวัน มองว่าผู้ว่ากทม. ต้องดูแลทุกเรื่อง ทั้งเรื่องทางเท้า ที่จะต้องเรียบสม่ำเสมอ ส่งเสริมการค้าขายในทุกพื้นที่ เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจนก็จะไม่มีส่วย ไม่มีเส้น
สำหรับนโยบายเรื่อง LGBT+ ตนเองคิดมาเสมอว่า พี่น้อง LGBT+ คือส่วนหนึ่งของสังคม และไม่เคยมองว่าแตกต่างจากผู้อื่น ตนพร้อมสนับสนุนให้มีความเท่าเทียม ตั้งแต่ในสถานศึกษา รวมทั้งในหน่วยงานของกทม. ต้องผลักดันและส่งเสริมเรื่องความเท่าเทียมกัน ซึ่งจะทำให้สังคมมีความหลากหลายและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อย่างแท้จริง