คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิญผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เข้าให้ข้อมูล หลังมีผู้ร้องเรียน เกี่ยวกับการทำคดีแตงโม ขณะที่ "อัจฉริยะ" ร้องตำรวจตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ

 

วันที่ 20 พ.ค.2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำหนังสือเข้าร้องเรียนกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์ที่ชันสูตรศพของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เสียชีวิตจากการพลัดตกเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้นำศพไปทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมทั้งเข้าให้ปากคำในการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนในคดีของแตงโม นิดา

โดยในประเด็นเรื่องการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบวินัยผู้การนิติเวช และแพทย์ที่ชันสูตรเนื่องจากมองว่า แพทย์มีหน้าที่ในการชันสูตรศพเพียงอย่างเดียวไม่ใช่การนำศพออกมาทดลองลักษณะบาดแผล ซึ่งมองว่าเรื่องดังกล่าวอาจทำให้ได้รับความเสียหายหรือศพอาจจะปนเปื้อนพยานหลักฐานอื่น ๆ จนเกิดความเสียหายต่อคดี เพราะในช่วงที่นำศพออกมาทดลองสภาพแวดล้อมไม่ตรงกันใบพัดอาจมีการปนเปื้อนซึ่งเรื่องดังกล่าวมีเพียงแพทย์และผู้ช่วยแพทย์รวมถึงช่างภาพเท่านั้นมิได้มีเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานหรือผู้เชี่ยวชาญด้านใบพัดมาร่วมตรวจสอบด้วย

ทั้งนี้มองว่า เรื่องดังกล่าวยืนยันว่าเป็นการลักศพหรือลักทรัพย์ เพราะไม่ได้แจ้งให้ญาติ และทนายความทราบ ถึงแม้ว่าร่างจะอยู่ในการควบคุมของสถาบันนิติเวชวิทยาก็ตามแต่ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง แพทย์ยังมีการให้การเท็จเรื่องบาดแผลซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง

ส่วนกรณีของผู้การนิติเวชมองว่าเป็นการปล่อยปละละเลยหรือมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ จึงจำเป็นต้องมาร้องเรียนดังกล่าว ส่วนกรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยมีพลตำรวจเอกมนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกรณีนี้ มองว่าถึงแม้พลตำรวจเอกมนตรีจะเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกันกับพลตำรวจโทจิรภัทรภูมิจิตรผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็ตาม แต่ก็ยังเชื่อใจในการทำงานของพลตำรวจเอกมนตรี และพยานหลักฐานที่ตนเองรวบรวม และนำไปมอบให้กับคณะกรรมการสอบสวน และเชื่อว่าจะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวได้ โดยเฉพาะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ซึ่งนายอัจฉริยะพุ่งเป้ามาเป็นอันดับ 1 และจะดำเนินการนำออกนอกพื้นที่หรือให้ย้ายออกจากพื้นที่ให้ได้เนื่องจากเจ้าตัวมีกรณีที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหลายเรื่องทั้งเรื่องการโอนเบี้ยเลี้ยงตำรวจช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การปล่อยให้มีการเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรณีล่าสุดคือการปล่อยให้ของกลางได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ยังมองอีกว่า การกระทำของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีเป็นลักษณะเหมือนการข่มขู่ให้ตนเองไม่ดำเนินการร้องเรียนต่อ ซึ่งหากมีข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสอบสวนหรือในชั้นศาลออกมาแล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงก็สามารถมาแจ้งความกลับได้ซึ่งทุกข้อหาที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ มองว่าตนเองสามารถชี้แจง และต่อสู้คดีได้ทุกคดี

อย่างไรก็ตาม หากผลการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวออกมาไม่เป็นไปตามที่นายอัจฉริยะคิดไว้หรือเป็นคุณกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มองว่าตนเองจะเดินหน้าต่อไป และยังมีอีกหลายขั้นตอนที่สามารถดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้

ส่วนกรณีของเรือลำที่เกิดเหตุที่ตนเองอ้างว่ามี 2 ลำ ขณะนี้มีข้อมูลแล้วว่า เรือลำเกิดเหตุของจริงขณะนี้อยู่ที่จังหวัดชลบุรี และถูกชำแหละเป็นซากเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกครั้ง