"อัจฉริยะ" ปฏิเสธไม่ได้ร่วมมือกับ "บังแจ็ค" เพราะมองว่าเป็น 18 มงกุฎ พร้อมยื่นร้องขอความเป็นธรรมคดีแตงโมให้อัยการสูงสุด โดยให้ตำรวจสอบเพิ่มอีก 8 ประเด็น หลังอัยการนนทบุรีเตรียมสั่งฟ้องคดีวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.65)
วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อร้องขอความเป็นธรรม 8 ข้อในคดีแตงโม โดยขอให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งไปยังพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อมีคำสั่งให้ตำรวจภูธรภาค 1 สอบปากคำพยานเพิ่ม 3 ปาก คือแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค สมาชิกวุฒิสภา พันเอกนายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอสเรือ
โดยนายอัจฉริยะระบุว่า ในหนังสือที่ยื่นให้อัยการนั้นให้ 8 ประเด็นหลัก คือขอให้มีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง และที่เสื้อผ้าของคน 5 คนบนเรือในวันเกิดเหตุที่ตำรวจไม่เคยยึดมาตรวจ โดยขอให้นำไปตรวจกับหน่วยงานกลาง เช่น กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแหล่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หรือกระทรวงยุติธรรม
ตลอดจนตรวจสอบพิกัดที่ตกเรือ เพราะมองว่าการตกท้ายเรือเป็นไปไม่ได้ ซึ่งแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ เคยพูดไว้แล้วถึง 2 ครั้งว่า เป็นการตกจากหัวเรือ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องสอบปากคำแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ รวมถึงนายแพทย์ธวัชชัย และผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอสเรือ เพื่อดูว่า บาดแผล ช่วงเวลาการเสียชีวิต และตำแหน่งเรือ สัมพันธ์กันหรือไม่ โดยหากอัยการสูงสุดมีคำสั่งเร็วที่สุด ก็คาดว่าไม่เกิน 10 วันก็แล้วเสร็จ เพราะพยานทุกคนพร้อมจะมาให้ปากคำ โดยไม่ถือเป็นการประวิงเวลา
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.65) ทนายเดชา และทนายตั้ม ออกมาพูดว่า ตนเองมีส่วนร่วมมือกับบังแจ็คในการปล่อยภาพแตงโม ตนเองยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบังแจ็ค แต่ยอมรับว่า บังแจ็คเคยติดต่อมาเมื่อวันที่ 16 เม.ย.65 โดยโชว์ไลน์ ว่า บังแจ็คส่งคลิปเสียงตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี รับเงิน แต่ตนเองไม่เชื่อ และไม่ให้ค่ากับพวก 18 มงกุฎอย่างบังแจ็ค
ส่วนที่ทนายเดชาถอนตัวเป็นทนายให้แม่แตงโม ตนเองพร้อมจะเป็นที่ปรึกษาให้หากแม่ต้องการ แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่แม่จะไปฟ้องร้องทนายเดชาหรือบุคคลใด ๆ ในตอนนี้ เพราะแม่ควรมุ่งตามหาความจริงในการตายของลูก แม้ว่าทนายเดชาจะทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นทนาย ที่ออกมาแถลงข่าวเรื่องโทรศัพท์แตงโม แต่ควรให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไซเบอร์มากกว่าการเอาลูกความมาประจาน จริง ๆ มองว่าทนายเดชารับรู้ตลอดว่าในโทรศัพท์แตงโมมีข้อมูลอะไรบ้าง แต่ด้วยความที่ทนายเดชามีความเอนเอียง เชื่อมั่นตำรวจจนเกินไป ทำให้แม่หันไปเชื่อบังแจ็คที่เป็นคนกะล่อน ดังนั้น จะโทษแม่คนเดียวไม่ได้ ต้องว่าทนายซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้วยว่า ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร
ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยว่า หลังรับเรื่องแล้วจะรีบนำเรื่องดังกล่าวส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา แต่ส่วนตัวไม่สามารถระบุได้ว่าอัยการสูงสุดจะพิจารณาได้ทันก่อนการสั่งคดีในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.65) หรือไม่
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.65) อัยการจังหวัดนนทบุรีจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาทัง 6 คนได้หรือไม่นั้น ไม่ขอก้าวล่วง ให้อัยการจังหวัดนนทบุรีเป็นผู้พิจารณา