"เต้ มงคลกิตติ์" รับสางคดี"แตงโม"ต่อเอง ขอเวลา 15-30 วัน ส่งฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย 200 ล้าน เตรียมนัดกินข้าวกับ"แม่แตงโม"วันนี้ ก่อนจับมือแถลงคดีพรุ่งนี้ หลังแม่เชื่อแตงโมถูกฆาตกรรม พร้อมเผยแม่สบายใจดี แม้ถูกโซเชียลถล่ม มองเป็นสิทธิ์และเชื่อมีเหตุผลที่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค ซัดสื่อปั่นกระแส ทำแม่ถูกทัวร์ลง ประกาศหลังจากนี้ไม่ต้องกลัว พรรคไทยศรีวิไล มีอดีตทหารจำนวนมากดูแลอยู่
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไล ยอมรับว่า นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม หรือ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวที่เสียชีวิต ได้ประสานขอให้พรรคไทยศรีวิไลย์ และชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ช่วยทำคดีการเสียชีวิตของแตงโม เพราะตอนนี้แม่เชื่อว่า ลูกสาวถูกฆาตกรรม เราจึงจะฟอร์มทีมเป็น 2 ชุด ร่วมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และมีทีมทนายความ ที่มีใบอนุญาตอีกกว่า 10 คน รวมถึงทีมที่ปรึกษาเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย อดีตอัยการอาวุโส อดีตผู้พิพากษาศาลสูงมาช่วยเขียนร่างคำฟ้องดำเนินคดี ชุดแรกจะดำเนินคดีอาญา มาตรา 289 (7) ให้เหมือนกับคดีแพทย์หญิงผัสพร บุญเกษมสันติ ที่พ่อเขาดำเนินการฟ้องคดีเอง อีกชุดจะดำเนินฟ้องคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท ตอนนี้หลักฐานบางส่วนได้มาแล้ว แต่ก็ยังไม่ครบถ้วน ส่วนทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย จะไม่ได้ร่วมทำคดีนี้
ทั้งนี้ ช่วงเย็นวันนี้ ตนจะไปรับประทานอาหารและพูดคุยกับแม่แตงโม ถึงขั้นตอนวิธีการดำเนินการ และในวันพรุ่งนี้จะมาแถลงความคืบหน้าพร้อมกับแม่และนายอัจฉริยะ ที่สภาเวลา 11.00 น. และคาดว่าจะภายใน 15-30 วัน น่าจะยื่นร้องต่อศาลได้ ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด หากทุกอย่างสว่าง ข้อมูลจะมาเรื่อย ๆ และหากใครมีข้อมูลสามารถส่งมาเพิ่มเติมที่พรรคไทยศรีวิไลได้
นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวต่อได้ว่า การทำคดีครั้งนี้ ตนไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ กับแม่ของแตงโม พรรคออกให้ทั้งหมด และหากแม่ฟ้องทางแพ่งและได้รับเงินมาก็เป็นเรื่องของแม่ว่าจะเอาไปทำอะไร
ส่วนมือถือที่แม่ให้บังแจ็ค ถือเป็นสิทธิ์ของคุณแม่ เพราะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน และความตั้งใจของแม่ คือให้ไปกู้ข้อมูลที่ถูกลบไป ช่วงเวลาของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 20.15 น. - 24.00 น. เพราะการจะกู้ข้อมูลในประเทศไทยอาจจะถูกอิทธิพลและไม่สามารถดำเนินการได้ และยืนยันว่าการที่แม่แตงโมส่งมือถือให้บังแจ็ค ไม่ได้มีเรื่องผลประโยชน์ หรือเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นสำหรับ"บังแจ็ค" ถือว่า เจตนาดีและมีประโยชน์ ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เพราะช่วยกู้ข้อมูลจากมือถือ ซึ่งกำลังตรวจสอบว่า ข้อมูลนี้ถูกลบเมื่อไหร่ และเห็นว่าทุกคนที่มาร่วมไขคดีก็เพื่อให้เกิดความยุติธรรมถือเป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น และหลังจากนี้ใครมีคลิปหรือข้อมูล ขอให้แจ้งมาที่ตนโดยตรงไม่ต้องกลัวความไม่ปลอดภัยไม่ต้องกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะพรรคไทยศรีวิไลย์มีอดีตทหาร จำนวนมาก และนักรบก็มากทั้งในและนอกระบบ
"เป็นแนวทางที่คิดตรงกันว่าเป็นคดีฆาตกรรม ส่วนเรื่องมือถือเป็นสิทธิ์ของคุณแม่ เพราะแม่เป็นเจ้าของทรัพย์สินมือถือก็ถือว่าเป็นทรัพย์สิน และที่คุณแม่ให้ไม่ได้ให้ไปเลย แต่ให้ไปกู้ข้อมูลที่มันถูกลบไป ต้องใช้เวลาอีก 2 วันน่าจะเสร็จ" ตัดชน " เท่าที่ทราบรูปน้องแตงโมที่เกี่ยวกับคดีแม่เป็นคนอนุญาต ส่วนรูปอื่นที่ไปกระทบสิทธิ์ของคนอื่น แม่ไม่ได้อนุญาต และถ้าข้อมูลที่เกี่ยวกับคดีถ้าแม่อนุญาตก็ไม่มีใครเป็นผู้เสียหาย คนที่ไม่ไว้ใจกันเขาคงไม่ให้ข้อมูลไป เพียงแต่ว่ามือถือหากมากู้ในประเทศไทย คนที่กู้เขาก็คงกลัวอิทธิพล แต่เมื่อพรรคไทยศรีวิไลมารับคดีคดีนี้ แล้วก็มีทีมงาน อัจฉริยะมาช่วยด้วย เป็นทีมใหญ่ คงไม่มีใครมีอิทธิพลเหนือกว่าพรรคไทยศรีวิไล" มงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ ยังเปิดเผยว่า ตอนนี้เท่าที่คุยกับแม่ ท่านสบายใจดี แม้จะถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก หลังส่งมือถือให้บังแจ็ค แต่ส่วนตัวเชื่อว่า แม่ไม่มีพฤติกรรมบกพร่องตามที่สังคมวิจารณ์ แม่ทุกคนรักลูก เพราะตั้งครรภ์มา 9 เดือน แต่แม่อาจตกเป็นเครื่องมือของสื่อบางสื่อ และอินฟลูเอนเซอร์ หรือ ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียลบางคน ทำให้แม่ถูกสังคมด่า
ส่วนที่ทนายเดชา ไม่ทำคดีให้กับแม่แตงโมแล้วนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันที่แม่มองว่าน่าจะเป็นฆาตกรรมแต่ทนายเดชามองว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ และไม่ขอให้ความเห็นว่าเหตุใดทนายเดชาถึงโพสต์ว่าหมดเวรหมดกรรมหลังถอนตัวจากคดีนี้
นายมงคลกิตติ์ ยังระบุถึงกรณีที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด วิจารณ์กรณีที่แม่ส่งมือถือให้บังแจ็ค เสมือนเป็นกระบวนการเรียกรับผลประโยชน์ ว่า การพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไรจะต้องรับผิดชอบด้วย
นายมงคลกิตติ์ ยังยืนยันว่าการทำคดีแตงโม คือภารกิจของ ส.ส. ไม่กระทบต่อการเตรียมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ..) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไม่กระทบ เพราะเตรียมตัวอยู่แล้ว ซึ่งใช้เวลาในการอภิปรายในสภาฯ แค่ 25 นาที คิดว่าไม่มีปัญหา ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว แค่มองตาก็รู้แล้วว่ารัฐมนตรีคนนี้ทำผิดอะไรบ้าง