"เเม่จิ๋ม" เเถลงร่ำไห้คืบหน้าคดีเเตงโม บอกที่ผ่านมาตั้งใจช่วยลูกสาว ทำน้ำหนักลด 7 กิโลกรัม 3 เดือน คดีถูกหมกเม็ด เป็นเรื่องเท็จทั้งนั้น

 

วันที่ 27 พ.ค. 2565 ภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือเเม่จิ๋ม เปิดใจเกี่ยวกับคดีเเตงโม โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ที่ขอเวลา 2 วัน วันนี้การให้ ส.ส. เต้ มงคลกิตติ์ มาดูแลคดีคือคำตอบ จากนั้นได้อ่านแถลงการณ์ ว่ารู้สึกอึดอัดใจในทุกประเด็นของการเสียชีวิตของแตงโม ลูกสาวเพียงคนเดียวที่รักสุดหัวใจ แตงโมเป็นลูกที่ดีมาก มีความกตัญญูดูแลพ่อแม่มาตลอด เป็นอภิชาตบุตร และเป็นคนรักความยุติธรรม อยากทำงานด้านการเมือง

ภนิดา กล่าวต่อว่า เมื่อตัวเองได้มาแถลงก็จะทำให้คนทราบความในใจว่าตัวเองเจ็บปวดชอกช้ำแค่ไหนจนถึงตอนนี้ยังคิดถึงลูกทุกวันตลอดเวลา และถึงเวลาแล้วที่ต้องทวงความที่ทำให้กับแตงโม ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวที่มีและรักสุดหัวใจ คุณแม่ต้องการให้เขาเกิดมาจริง ๆ และกำหนดวันเกิดด้วยซ้ำ จึงต้องการให้ลูกได้รับความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นความจริงอย่างถึงที่สุด โดยตัวเองมีความเข้าใจว่า ไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุและคิดว่าอาจเป็นการฆาตกรรมอำพราง จึงตัดสินใจดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดนนทบุรีด้วยตัวเอง โดยได้รับความช่วยเหลือ ทางกฎหมายจากพรรคไทยศรีวิไลย์ และชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นอกจากนั้นยังมีเเพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นพ.ธวัชชัย อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งภนิดาได้ร่ำไห้ออกมา บอกว่ารู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาว ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องเสียเวลากับอะไรก็ตามไปถึงสามเดือน ตอนนี้ตัดสินใจจะลุกขึ้นมาสู้เพื่อความถูกต้อง จะสู้เพื่อลูก แต่จริง ๆ เเล้ว ผ่านมา คุณแม่ก็สู้ แต่ไม่ได้บอกใคร มีหลักฐานมากมาย บางคนคิดว่าคุณแม่ไม่ได้ช่วยหรือไม่ได้ทำอะไร แต่ส่วนตัวมองว่าคุณแม่ไม่จำเป็นต้องประกาศ ถ้าไม่ช่วยลูกคงไม่น้ำหนักลดถึง 7 กิโลกรัม จนไม่ได้หลับได้นอน ที่สำคัญคือสื่อมวลชนแต่ละวันโทรหาเช้ามา 20 สาย คุณแม่รับสายทุกคนตั้งแต่เช้าถึงค่ำ คุณแม่ให้ข้อมูลทั้งหมดโดยไม่เคยปฏิเสธ เพราะเข้าใจในฐานะที่เคยทำงานประชาสัมพันธ์ แต่หลังจากนี้ขอความกรุณา ให้เสนอข่าวของคุณแม่อย่างถูกต้อง ขอให้สัญญาว่าจะช่วยกันหาหลักฐานให้กับคุณแม่บ้าง เพื่อลดความเหนื่อยยากของคุณแม่ จะปลอมตัวเป็นใครไปที่ไหนก็ทำไปเลย แล้วเบิกค่าใช้จ่ายที่คุณแม่ และอยากให้คดีของแตงโมเกิดความยุติธรรม เพื่อเป็นบรรทัดฐานในคดีอื่น ๆ ต่อไป

ภนิดา กล่าวอีกว่า สามเดือนที่ผ่านมาคดีของแตงโมถูกหมกเม็ดกลายเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ไม่เคยมีการเปิดเผยข้อเท็จจริง ไม่เคยมีคนพูด ทั้ง ๆ ที่สื่อรู้ แต่ไม่มีใครมาบอกคุณแม่ สื่อมวลชนปกปิดคุณแม่ แต่หลังจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นเรื่องจริงที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด มีคนออกมาพูดและสื่อก็ไปเชื่อเขา แต่ไม่ขอพูดว่าเขาคือใคร ทั้งสามเดือนที่ผ่านมาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด และย้ำว่าคุณแม่รักสื่อมวลชนทุกคน จำได้ทุกคน

 

"อัจฉริยะ" โชว์เอกสาร "แม่แตงโม" แต่งตั้งมีอำนาจทำคดี 100%

โดยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้โชว์เอกสารที่ระบุว่า แม่จิ๋ม ภนิดา ได้แต่งตั้งให้ชมรมฯ ทำหน้าที่ดูแลคดีของแตงโม และขึ้นว่าความตามกฏหมายแล้ว โดยล่าสุดตัวเองได้นำหลักฐานที่เชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรมอำพรางมอบให้กับคุณแม่

หลังจากนี้จะดำเนินการค้นหาหลักฐานต่อจะมีการตรวจพิสูจน์เรือใหม่ วันจันทร์ (30 พ.ค. 65) นี้ จะมีการส่งโดรนใต้น้ำไปสำรวจ และฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพราง แต่หลักฐานบางส่วนไม่สามารถเปิดให้สื่อมวลชนหรือประชาชนดูได้ แต่ได้ให้คุณแม่ของแตงโมดูแล้วจนไว้ใจแต่งตั้งทำคดี

โดยหลังจากนี้จะเชิญผู้เชี่ยวชาญ 15 คน อย่างแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ และนพ.ธวัชชัย อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า มาช่วยพิสูจน์เรื่องแผล ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ จีพีเอส ด้านแสงและเงา รวมถึงอดีตอัยการ โดยวันนี้ถือเป็นวันที่รอคอยในการให้แม่ของแตงโม เชื่อว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นการฆาตกรรมอำพราง

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายอัจฉริยะมีพยานหลักฐานอะไรใหม่อีกหรือไม่ที่จะแสดงให้เห็นว่าคดีของแตงโมเป็นการฆาตกรรม ด้านนายอัจฉริยะบอกว่า หลังจากนี้ตนเองจะเดินหน้าตรวจพิสูจน์ และมองว่าสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกอย่างแต่อาจจะไม่สามารถบอกสังคมได้ทั้งหมด เพราะตอนนี้ไม่ได้สู้แต่กับเพียงผู้ต้องหาแต่สู้กับบุคคลที่มีอำนาจทางกฎหมายด้วย

 

แม๊! ปิดท้ายสัมภาษณ์ ด้วยเพลง “ใต้ร่มมลุลี” ด้าน "ส.ส.เต้" กล่าวจะนัดไปร้องเพลงทุกสัปดาห์

ในขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์กล่าวว่า กรณีที่เมื่อวานนี้ (26 พ.ค. 65) ได้นัดหมายคุณแม่ไปร้องเพลงก็เพื่อคลายเครียด พร้อมยอมรับว่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์แต่มองว่าทุกคนต้องมีดนตรีในหัวใจ และหลังจากนี้ก็จะนัดกันไปร้องเพลงทุกสัปดาห์ เลือกเอาวันที่คนไม่เยอะเพราะจะได้ร้องหลาย ๆ เพลง จากนั้นแม่จิ๋มร้องเพลง “ใต้ร่มมลุลี” ปิดท้ายสัมภาษณ์ โดยกล่าวว่า เป็นเพลงที่มีความหมายเศร้า และเมื่อวานนี้ได้ร้องเพลงนี้กับ ส.ส.เต้ อีกเพลงที่ร้องคือ “ปลอบใจเจ้าทุย” โดยหากจบคดีแตงโมตั้งใจที่จะปิดร้านร้องเพลงเลย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีของ บังแจ็ค คุณแม่ นายอัจฉริยะ และส.ส.เต้ โดยกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ขอพูด จะแถลงที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางวันที่ 2 มิ.ย. ครั้งเดียว โดยกล่าวว่า ตอนนี้หลักฐานสำคัญอยู่ที่บังแจ็คและขออย่าให้มีการกล่าวหา เพราะอย่างน้อยยังมีประโยชน์