ชาวบ้านลงไปหามูลค้างคาวในถ้ำ เพื่อนำไปปลูกมัน แต่ระหว่างกำลังขนย้ายมูลค้างคาวออกมา เกิดหินบนปากถ้ำถล่มลงมาทับชาวบ้านเสียชีวิต 1 ศพ ส่วนอีก 3 คน รอดมาได้หวุดหวิด

เจ้าหน้าที่กู้ภัยโรยตัวลงไปช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ติดอยู่ในถ้ำ บนเขาจั๊กจั่น หลังวัดถ้ำสิทธาราม หรือวัดถ้ำทอง ตำบลชอนสารเดช อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี หลังเกิดดินปากถ้ำถล่ม โดยขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านเข้าไปเก็บมูลค้างคาวในถ้ำ 4 คน หนีรอดออกมาได้ 3 คน อีก 1 ยังติดอยู่ภายในถ้ำ

ซึ่งเจ้าหน้าที่นำกำลังนำ เครื่องมือ และอุปกรณ์พิเศษ เปิดปากถ้ำเพื่อเข้าไปค้นหา ภายในถ้ำมีความมืด และลาดชันในแนวดิ่งลึกกว่า 15 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกโรยตัวลงไปภายในถ้ำ โดยสามารถลงไปได้เพียง 2 คน เนื่องจากลักษณะของถ้ำเป็นปล่องลงไปข้างล่าง ลึกและคับแคบ มีหินที่พังลงมาติดค้างอยู่ตรงช่องปากถ้ำ

เมื่อลงไปพบร่างนายทัย ทองใบ ถูกหินทับอยู่ช่วงไหลซ้ายครึ่งตัวสภาพแน่นิ่งเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือดมัดร่างนายทัย แล้วใช้รอกดึงขึ้นออกมาจากปากถ้ำได้สำเร็จใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

จากการสอบถาม นายประสงค์ วงศ์มณี ชาวบ้านผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็น 1 ในผู้ที่รอดชีวิต เล่าว่า ตนเองพร้อมกับเพื่อน รวม 4 คน มีนายวิลัย วงษ์มะณี // นายประสงค์ วงษ์มะณี // และนายทัย ทองใบ เดินทางขึ้นมาหาเก็บมูลค้างคาว บริเวณเขาจั๊กจั่น หลังวัดถ้ำสิทธาราม เพื่อนำไปใช้เป็นปุ๋ยในไร่ และจำหน่ายบางส่วน

ซึ่งนายประสงค์กับนายทัย ทำหน้าที่เฝ้าอยู่บนปากถ้ำ เพื่อคอยถือเชือกให้ ส่วนอีก 2 คน จะคอยส่งมูลค้างคาวใส่ถุงปุ๋ยขึ้นมาข้างบน แต่ในจังหวะเกิดเหตุได้มีก้อนหินปากถ้ำพังลงไปในถ้ำดึงร่างของนายทัย ตกลงไปด้านล่าง ส่วนเพื่อนที่อยู่ในถ้ำได้ไหวตัวทันหลบพ้น บาดเจ็บเล็กน้อย แล้วปีนเชือกเอาชีวิตรอดมาได้

ทั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้มอบเงินให้ญาติผู้ตาย เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น 5,000 บาท