"จิราพร" ซัด "นายกฯ" จงใจขูดรีด ปชช. หลังประมาณการรายได้ถึง 2.49 ล้านล้านบาท ดีแต่ใช้เงิน แต่สร้างรายได้ไม่เป็น
วันที่ 1 มิ.ย.65 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3,185 ล้านล้านบาท เป็นวันที่ 2 ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น.
โดยนางสาวจิราพร สินธุไพร สส. ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ร่าง พรบ. งบฯ ปี 66 เป็นร่างกฎหมายที่ขูดรีดประชาชน เพราะรัฐบาลตั้งเป้าประมาณการรายได้ 2.49 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปี 2565 กว่า 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินกู้ปรับลดเหลือ 6.95 แสนล้านบาท เพื่อไม่ให้เกินเพดานที่กู้ได้ ที่ 7.17 แสนล้านบาท และมีตัวเลขกู้ที่น้อยจากปี 2565 กว่า 5,000 ล้านบาท พฤติกรรมดังกล่าวถือว่า เอาเปรียบประชาชน เพราะรัฐบาล ลดวงเงินกู้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกวิจารณ์จากประชาชนว่า เป็นรัฐบาลนักกู้ที่กู้เพิ่มทุกปี แต่เพิ่มการจัดเก็บภาษีจากรัฐวิสาหกิจ ถือว่า ซ้ำเติมประชาชนที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ
"ประมาณการรายรับ รายได้จากภาษี และรัฐวิสาหกิจ ตั้งเป้าเก็บเพิ่มขึ้น จะกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และผู้ประกอบการโดยตรง โดยตั้งเป้าภาษีนิติบุคคล 6.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9 หมื่นล้านจากปี 2565 ซึ่งมีคำถามว่าจะเก็บจากใคร บริษัทขนาดใหญ่ หรือบริษัทขนาดเล็ก แต่หากรัฐบาลระบุว่าจะจัดเก็บได้ตามเป้าแน่นอน ขอตั้งข้อสังเกตว่า การจัดเก็บภาษี 80% มาจากบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้นรัฐบาลอาจมีการทำโครงการเพื่อเอื้อให้บริษัทขนาดใหญ่มีรายได้เพื่อจ่ายภาษีตามเป้า โดยละเลยการสนับสนุนบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอี และหากรัฐบาลทำได้ไม่ตามเป้ากรรมอาจตกมายังกลุ่มเอสเอ็มอี"
ทั้งนี้ นางสาวจิราพรยังกล่าวต่อว่า รัฐบาลหารายได้จากการเรียกเก็บภาษีจากรรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ การเก็บภาษีจากรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น 5% ไม่ผิด แต่สิ่งที่ทำผิดคือปล่อยให้รัฐวิสาหกิจขูดรีดประชาชน เช่น การขึ้นค่าไฟ ค่าน้ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลหาเงินไม่เป็น ใช้เงินมือเติบ ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกว่าฝ่ายค้านวิจารณ์ไม่มีอะไรใหม่ ขอให้ทำความเข้าใจว่ารัฐบาลทำงบประมาณด้วยโครงสร้างแบบเดิม ไม่มีทิศทาง หากจะเปลี่ยนแค่ปีงบประมาณเท่านั้น
อีกทั้งนางสาวจิราพรยังกล่าวด้วยว่า ฝั่งรัฐบาลกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านเล่นการเมือง ด้วยการไม่รับร่างพรบ. งบฯ ปี 66 แต่ตนเองมองว่า หากรับร่าง พรบ. งบฯ ปี 66 จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส เพราะช่วง 8 ปี พบว่ารัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ สร้างรายได้ไม่เป็น ใช้เงินไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่วางรากฐาน เมื่อต้องการสร้างรายได้ จึงรีดภาษีให้มากขึ้น ขณะที่ประชาชนลำบาก หากปล่อยให้ผ่าน วิกฤตจะวนซ้ำซาก ไม่เห็นอนาคตของประเทศ ดังนั้นขอให้ร่าง พรบ. งบฯ ปี 66 ตกไป และให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมาทำงบประมาณเพื่อคืนความหวังให้คนไทย