"นายกฯ" ห่วงใยสุขภาพประชาชน เตือนฝนตกต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมขัง ระวังโรคฉี่หนู กรมควบคุมโรคแนะเลี่ยงเดินลุยน้ำย่ำโคลน ป้องกันโรค
วันที่ 2 มิ.ย. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความห่วงใยสุขภาพของประชาชนในระยะนี้ ซึ่งอาจเจ็บป่วยจากโรคเลปโตสไปโรสิส หรือโรคไข้ฉี่หนู ที่มีสาเหตุมาจากสภาพภูมิอากาศที่มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ
โดยนายกรัฐมนตรีรับทราบรายงานการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในส่วนสถานการณ์ของโรคไข้ฉี่หนู ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 22 พ.ค. 65 ที่พบผู้ป่วย 356 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 45-54 ปี (18.82%) รองลงมา คือ 55-64 ปี (16.57%) และอายุ 35-44 ปี (16.01%) ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรและอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ระนอง แม่ฮ่องสอน พังงา พัทลุง และสงขลา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพโดยกรมควบคุมโรค คาดว่า ในช่วงนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้ฉี่หนูเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้สภาพพื้นดินเปียกชื้น หรือน้ำท่วมขังบางพื้นที่ ตามท้องถนนหรือพื้นที่ที่ทำการเกษตรต่าง ๆ เนื่องจากเชื้อก่อโรค ซึ่งพบอยู่ในปัสสาวะของหนูรวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ เช่น สุนัข แมว โค แพะ แกะ มักจะปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำขัง พื้นดินที่เปียกชื้น ทำให้ประชาชนอาจได้รับเชื้อโรคดังกล่าวจากการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานานได้
โดยเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือการไชเข้าทางผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังอาจติดต่อได้จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้แนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำหรือทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด ควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงมือยาง และกรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้แผลสัมผัสน้ำโดยตรง
2. หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ พร้อมทั้งอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ
3. หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้สะอาดไม่มีหนูชุกชุม
4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ล้างผัก ผลไม้ ให้สะอาดก่อนนำมารับประทาน
"การเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไข้ฉี่หนูได้ง่าย ย้ำว่า เชื้อโรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล ผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนาน และการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากฉี่หนูหรือสัตว์อื่น ๆ ที่ติดเชื้อ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังโรคเลปโตสไปโรสิสหรือโรคไข้ฉี่หนูเป็นพิเศษ สำหรับอาการของโรคไข้ฉี่หนูจะเริ่มจากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง จะปวดมากโดยเฉพาะที่น่องและโคนขา มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง เป็นต้น หากประชาชนเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แล้วมีอาการดังกล่าว กรมควบคุมโรคแนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว อย่าซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ที่สำคัญขอให้แจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาทันที" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว