"เต้ มงคลกิตติ์" เล่นใหญ่!! เสียงสั่น กระชากบัตร ส.ส.ทิ้ง ลั่น พร้อมแลกตำแหน่งช่วยคดีแตงโม รับห่วง"แม่" เส้นเลือดในสมองแตก หากถูกข่มขู่ ยันช่วยจนจบ ไม่หวั่นแม้พ้น สส. หรือติดคุก มั่นใจไม่ได้ข่มขู่ทนายเดชา หรือทำตัวเป็นอั้งยี่ซ่องโจร ชี้หากผิดจริงเดี๋ยวลาออกเอง
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สส. พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พลต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการถอดออกจากตำแหน่ง ส.ส. จากการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง หลังมีพฤติกรรมใช้ตำแหน่งหน้าที่ สส. ข่มขู่ทนายเดชา ว่า ตนพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ใครเห็นว่าผิดก็สามารถยื่นร้องเรียนได้ แต่การที่ทนายเดชาจะกล่าวหาว่าตนเป็นอังยี่ซ่องโจร ขอปฏิเสธ เพราะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น และยืนยันว่าที่ โทรไปคุยไม่ได้มีพฤติกรรมข่มขู่ เพียงแต่สร้างความเข้าใจและตักเตือนทนายเดชา เท่านั้น และขอให้ไปถามทนายเดชา ว่า ข่มขู่อะไรตนไว้บ้าง
นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า คดีแตงโมเรามองภาพรวมในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อตนเข้ามารับผิดชอบแล้ว เราจะไม่สามารถทิ้งแม่แตงโม ให้ไปต่อสู้คนเดียวได้ หากแม่แตงโมเป็นอะไรไปตอนนี้ ก็จะไม่มีผู้เสียหายโดยตรงที่จะฟ้องคดีเองได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่า คนอื่นสามารถให้ความเห็นเชิงสร้างสรรค์ได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการให้ความเห็นในเชิงข่มขู่ เนื่องจากแม่แตงโมความดันสูง และอายุมากแล้ว หากความดันสูงขึ้น แล้วเส้นเลือดในสมองแตกและทำให้เสียชีวิต เราก็จะไม่มีผู้เสียหายในคดีอาญานี้แล้ว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยอารมณ์ พร้อมดึงบัตรประจำตัว ส.ส. ออกจากหน้าอก พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า หากไม่สามารถคุ้มครองแม่ของแตงโมได้ ก็ไม่มีหน้าจะเป็น ส.ส. และคนอย่างตนเองหากคิดจะสู้ ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว และไม่กลัวการตรวจสอบด้วย รวมถึงไม่กลัวการติดคุก ขณะเดียวกันตนทราบดีว่า โทษสูงสุดของการขัดจริยธรรม ส.ส คือไม่ได้เป็นส.ส.อีก แต่ตนพร้อมแลก หากช่วยให้กระบวนการยุติธรรมดีขึ้น เพราะยังมีคนอื่นทำหน้าที่แทนตามอุดมการณ์ของพรรคไทยศิวิไลย์
พร้อมกล่าวย้ำว่า ความตั้งใจคือหากทำคดีนี้เสร็จสิ้นก็จะลาออกจาก ส.ส. อยู่แล้ว และหากตนเองผิดจริงไม่ต้องมาตัดสิน เพราะจะลาออกด้วยตนเอง แต่ยืนยันจำเป็นที่จะเป็น ส.ส.ต่อ ตอนนี้ เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชนที่ตนดูแลอยู่ผ่านพ้นไปด้วยดี
พร้อมฝากไปยังทนายคน 4 คนว่า ให้ดูด้วยว่าตนกำลังทำอะไรอยู่และท่านทำอะไรอยู่ เพราะตนพยายามช่วยเหลือแม่แตงโมทุกทางที่ทำได้ แต่ทนายทั้ง 4 คน กลับพยายามระงับกระบวนการยุติธรรม และส่วนตัวไม่โกรธที่จะไปร้องเรียน สามารถทำได้ แต่เสียใจเพราะจะทำให้เสียเวลาในการต่อสู้คดี ขอร้องอย่างวางประตูเรือใบ หากทำงานนี้เสร็จแล้วจะทำลาออกเอง พร้อมยกบทกลอนของ ศรีปราชญ์ฝากถึงทนายทั้ง 4 คน ว่า
"ธรณีนี่นี้เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง เราผิด 4-5 คนมาประหารเราชอบ เราบ่ผิดท่านมาล้างดาบนั้นคืนสนอง" นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังพูดถึงกรณีทนายตุ๋ย ทนายความของแซน ที่นำคลิปเสียงบังแจ็ค ที่โทรมาหาทนายตุ๋ย มาเปิดในรายการโหนกระแส โดยพูดพาดพิงถึง นายอัจฉริยะ และตนเอง ว่าได้มอบหมายให้ทนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ดำเนินคดีกับทนายตุ๋ยแล้วเพราะเป็นการหมิ่นประมาทชัดเจน แม้ในรายการโหนกระแส ทนายตุ๋ยจะอ้างว่า ทำเพื่อช่วยให้ตนเองและ นายอัจฉริยะก็ตาม
ซึ่งหลังจากมีการเปิดคลิปเสียงออกมา ก็ยังไม่มีการพูดคุยกับบังแจ็ค แต่ฟังเสียงก็คล้ายกับบังแจ็ค และยังมั่นใจในตัวบังแจ็คอยู่ว่า ต้องการช่วยเหลือคดีแตงโม โดยไม่มีเรื่องเงินหรือผลประโยชน์แอบแฝง และบังแจ็คอาจจะเป็นไส้ศึกที่ตัวเองส่งไปสืบข่าวฝั่งนั้นก็ได้