"ชัชชาติ" เป็นประธานกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน เผยความตั้งใจ พัฒนาสวนสาธารณะให้ใช้พื้นที่คุ้มค่า เป็นลานกิจกรรมของคนกรุง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2565 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการเขต พร้อมด้วยข้าราชการและบุคลากรกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรม ณ สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ เขตพระนคร
โดยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครร่วมกันปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีม่วง เช่น ตะแบก เสลา อินทนิล จำนวน 90 ต้น นอกจากนี้ในสวนสาธารณะทุกแห่งของกรุงเทพมหานคร จำนวน 40 แห่ง ก็ได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในโอกาสเดียวกัน ทั้ง กระถินเทพา แคนา ชมพูพันธุ์ทิพย์ ตะเคียน เต็ง นนทรี ประดู่ พะยูง มะค่าโมง แดง ยางนา เหลืองปรีดิยาธร ฯลฯ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,684 ต้น เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียว เป็นกำแพงกรองฝุ่นทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นายชัชชาติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีป้อมเหลืออยู่ 2 ป้อม คือ ป้อมมหากาฬและป้อมพระสุเมรุ ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่สามารถพัฒนาเนื้อหาให้มีคุณค่า และเกิดประโยชน์ทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ในเรื่องแรกที่ทำก่อนคือ การปลูกต้นไม้ โดยคัดเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ สภาพพื้นดิน สภาพอากาศ ขนาดของต้นไม้ ต้นเล็กหรือต้นใหญ่ ไม่ให้มีรากชอนไชทางเท้า มีแอปพลิเคชันติดตาม โดยมีแนวร่วมประชาชนช่วยกันดูแลต้นไม้ให้อยู่คู่กับเมือง รวมถึงส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนช่วยปลูกกล้าไม้ เป็นการส่งเสริมรายได้เศรษฐกิจชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย
"การปลูกต้นไม้สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องปลูกในสวนสาธารณะหรือที่สำนักงานเขตจัดไว้ สามารถปลูกได้ตามอาคารห้างร้าน หรือบ้านเรือนประชาชน นับว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งในครอบครัว นอกจากนี้เรายังใช้ประโยชน์จากพื้นที่สวนสาธารณะเพื่อการออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมในสวนได้มากขึ้น การเพิ่มลานกีฬา การแสดงดนตรีในสวนทุกวันอาทิตย์ เช่น สวนรถไฟ สวนลุมพินี เป็นพื้นที่แสดงออกทางด้านดนตรีและศิลปะ ประชาชนสามารถพาครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย มีพื้นที่ผ่อนคลายความเครียด พบปะเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้คน"
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้ ในพื้นที่ว่าง บริเวณอาคารสำนักงาน หรือบ้านเรือน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและร่วมแสดงความจงรักภักดี อีกทั้งยังเพิ่มร่มเงาเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดมลภาวะเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควัน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับประชาชนและกรุงเทพมหานครได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้ประดับตกแต่งดอกไม้ บริเวณรอบวังสวนจิตรลดา ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วยพร้อมเชิญประชาชนชมความสวยงามของไฟประดับ ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ บริเวณเส้นทางถนนราชดำเนินนอก ต่อเนื่องถึงถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่วันที่ 1-7 มิถุนายน 2565 และเปิดให้ประชาชนได้ชมความสวยงาม พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ได้ตั้งแต่เวลา 18.00 -23.00 น. โดยในวันที่ 3 มิถุนายน 2565 จะเปิดไฟประดับตลอดทั้งคืน