“นิโรธ” ไม่วิจารณ์ผลโหวตงบฯ ปี 66 ยันรัฐบาลจัดงบเหมาะสม พร้อมให้ตัดโครงการที่ไม่จำเป็น ปัดจัดงบแบ่งเค้กพรรคร่วมฯ เตรียมหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า

 

วันที่ 6 มิ.ย.65 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาลกล่าวถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ผ่านการพิจารณาของสภาฯ วาระแรก ว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้กำชับบุคคลที่มาเป็นคณะกรรมาธิการว่า ต้องมาประชุมทุกวัน ส่วนเรื่องผลการลงมติ ตนเองขอไม่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะผ่านมาแล้วเพื่อให้เกียรติฝ่ายค้านแต่ สส. ฝ่ายค้านบางคนก็ออกมาตำหนิว่าประเทศไทยบ้าง ว่ารัฐบาลบ้าง ว่าพรรคการเมืองอื่นบ้าง ตนคิดว่าคนเหล่านั้นไม่เคยหันกลับไปดูตัวเองหรือพรรคของตัวเอง อาการแบบนี้ เรียกว่าอาการของผู้ผิดหวัง จากการจะเข้ามาแสวงหาอำนาจในการบริหารประเทศ เพราะการที่พรรคร่วมรัฐบาลประสานเสียงกัน เนื่องจากเห็นว่าเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องนำไปบริหารประเทศเพื่อดูแลประชาชน โดยเฉพาะเงินเดือนของข้าราชการและบำเหน็จบำนาญของผู้ที่เกษียณอายุราชการ เพราะกว่าจะได้รับบำเหน็จบำนาญมีขั้นตอนต่าง ๆ มากมายต้องรอ 15-25 ปีบ้างถึงจะได้รับ

“ติติงเขาไปเรื่อยว่ารัฐบาลไปเรื่อย ผมคิดว่าเรื่องงบประมาณ ถ้าฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาลในขีดจำกัดของภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะโควิด-19 และภาวะรายได้ที่ประเทศจัดเก็บมันก็เก็บได้เท่านี้ ไม่ใช่รัฐบาลไปขูดรีดภาษีชาวบ้านซึ่งงบรายได้จัดเก็บมามีแค่นี้ รายจ่ายก็มีแบบนี้ และงบลงทุนก็ต้องกู้มา หากฝ่ายค้านเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ไม่สามารถจัดงบประมาณให้ดีกว่านี้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้ไลฟ์สดการประชุม กมธ. เพื่อป้องกันการตบทรัพย์ ผมยืนยันว่าไม่มี พูดกันไปเรื่อย ยืนยันว่าไม่มีประเด็นนี้แน่นอน เป็นการพูดดาวน์เกรดรัฐบาล และพรรคการเมือง”

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลอภิปรายงบประมาณฯ ในการตรวจสอบ GT200 นั้น นายนิโรธกล่าวว่าเรื่อง GT200 เป็นเรื่องที่ขึ้นศาล โดยศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ฝ่ายบริษัทผู้ผลิตชดใช้เงินให้ทางราชการ ซึ่งตนเองเข้าใจว่าการตั้งงบให้ตรวจสอบคงค้างท่อมาจากตอนสู้กันในชั้นศาล ดังนั้น ประเด็นอยู่ที่เรื่อง GT200 มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้หรือไม่ และประเด็นสำคัญที่ไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะคดี ต้องมีการพิสูจน์ว่าเครื่องดังกล่าวสามารถใช้ได้หรือไม่ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล ซึ่งการตั้งงบประมาณต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทาง อยู่ดี ๆ จะมาจัดงบประมาณเลยคงทำไม่ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วในชั้น กมธ. ก็สามารถตัดงบประมาณได้ไม่มีปัญหาอะไร

ทั้งนี้หากไม่จำเป็นสามารถตัดงบออกได้เลยหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่าใช่ และไม่ต้องไปกังวลประเด็นนี้ ส่วนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อาสาพร้อมทำให้ฟรีนั้น ตนเองไม่ทราบข้อเท็จจริงแต่ต้องเป็นหน่วยงานที่จะต้องเชื่อถือได้ มีองค์กรรับรองจึงจะต้องนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลได้ พร้อมย้ำว่าประเด็นนี้ไม่มีปัญหา หากเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ. สามารถตัดได้ ถ้าขาดความจำเป็นแล้ว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านโจมตีว่าเป็นการจัดงบกระจุก และแบ่งเค้กให้พรรคร่วมรัฐบาลใช้หาเสียงเตรียมเลือกตั้งครั้งหน้า นายนิโรธยืนยันว่าไม่จริง เพราะรัฐบาลชุดนี้จัดงบประมาณกระจายไม่กระจุกเหมือนสมัยก่อน ๆ ตนเองยืนยันได้เพราะเป็น สส. รู้ว่าเป็นการจัดงบประมาณกระจายไปทุกภูมิภาค คำว่างบกระจุกคงโบราณไปที่จะนำมาใช้กับรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งถือเป็นการให้ร้ายรัฐบาล บางคนก็ให้ร้ายพรรคการเมืองอื่น ไม่หันกลับไปดูแลพรรคตนเอง

ส่วนเสียงผลการลงมติร่าง พรบ. งบประมาณฯ ปี 66 ผ่านฉลุย จะทำให้เบาใจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ตนเองบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าพวกนั้นเขาก็เหมือนแห่นางแมวไปเรื่อยเพื่อขอฝน แต่ฝนก็ไม่ตก รอบนี้ก็เหมือนกัน ทั้งนี้ การแห่นางแมวเป็นพิธีโบราณที่คนแห่จะต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์ และสุจริต เพื่อขอฝนจากฟ้า ดังนั้นหากจิตใจไม่สุจริต ไม่ถือศีล ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ