"ปิ๋ม ซีโฟร์" จับมือ "จิลล์" เปิดบ้านทำพิธีรำบูชาหนังหน้าครู 21 หน้า หลังสิ่งที่ขอประสบความสำเร็จ

 

จากที่ก่อนหน้านี้นักร้อง-นักแสดง และครูสอนเต้น "ปิ๋ม ซีโฟร์" พร้อมด้วย "จิลล์ จักรพงศ์" นักร้องดังยุค 90 ที่เป็นกูรูกุมารทองเครื่องรางของขลัง ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของหนังหน้าครู จำนวน 21 หน้า โดยมีความเชื่อว่าหนังหน้าครูแต่ละชิ้นคือเป็นของครูบาอาจารย์ที่เคยสอนวิชานาฏศิลป์ มาเมื่ออดีตชาติกว่า 200 ปี งานนี้จึงมีความตั้งใจที่จะกลับมาทำพิธีไหว้ครู พร้อมรำถวายเพื่อเป็นสิริมงคล

วันนี้ 9 มิ.ย. 65 "ปิ๋มซีโฟร์" และ "จิลล์ จักรพงศ์" ได้เผยกับทีมข่าวช่อง8 ว่า วันนี้เป็นพิธีรำถวายครู หลังจากที่ตนมากราบบูชาไปก่อนหน้านี้และได้ขอพรไว้ 3 เรื่อง และสรุปสำเร็จทั้ง 3 เรื่อง โดยที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจมาไหว้ แต่พอได้มาเห็นก็เกิดเหตุการณ์ตามคลิปที่สื่อได้นำเสนอข่าวไป โดยส่วนตัวแล้วยอมรับว่าตนมีจิตสัมผัสได้กับหนังหน้าครู เพราะมีหลายเรื่องที่พูดออกมาแล้วบังเอิญเกินไป เเละยังไปตรงกับหลาย ๆ เรื่อง จึงตั้งจิตตั้งใจถามว่าต้องการอยากจะให้ตนทำอะไรไหม ท่านจึงตอบมาในจิตว่า ท่านอยากให้ตนเองและจิลล์ เป็นสื่อกลางบอกถึงลูกศิษย์ให้ได้มากราบท่าน และทำให้ทุกคนรู้ว่าท่านอยู่ที่นี่จริง ๆ

ต้องตอบตามตรงว่า ตัวของ "จิลล์" ไม่รู้มาก่อนว่าตนเรียนนาฏศิลป์มา รู้แต่ว่าเราเป็นนักร้องเป็นนักแสดง มันเป็นเหตุบังเอิญจริง ๆ และจิตของตนก็สัมผัสได้ว่าเป็นครูบาอาจารย์ที่เคยสอนตนมาจริง ๆ ทำให้ระลึกได้ เห็นเลยว่าท่านมารับและกล่าวว่า "** มาแล้วเหรอ ** รอ ** อยู่" ตนเองจึงรู้สึกผิดที่ไม่ได้มากราบครูบาอาจารย์ตั้งแต่แรก มีโอกาสตนจึงมาขอขมาในวันนี้

ทางด้าน "จิลล์" เล่าถึงที่มาว่า ปกติแล้วตนเป็นคนที่ชอบสะสมเครื่องรางของขลังอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ 13 ปีที่แล้ว จนวันหนึ่งตนได้มีโอกาสไปเจอคุณลุงแก่ๆ คนอายุ 94 ปี ที่เป็นเจ้าของเก่าของหนังหน้าครูทั้งหมดนี้ โดยคุณลุงก็ถามตนว่าเป็นดาราหรือเปล่า พร้อมกับพาตนไปในห้องที่มีหนังหน้าครูนี้อยู่ และบอกให้ตนนำหน้าครูทั้งหมดไปดูแลต่อ ซึ่งหนังหน้าครูจะมีการส่งต่อกันเป็นทอดๆ แบบรุ่นต่อรุ่น แต่ด้วยลูกหลานของลุงไม่มีใครเอาไปสืบต่อ จึงได้ขอมอบให้ตนเป็นคนดูแลต่อ เพราะเห็นว่าเป็นดารา และจะสามารถดูแลได้ดี ตนเองจึงรับมาแบบงงๆ พร้อมกับหาข้อมูล และได้ทำการไปติดต่อส่งให้กับกรมศิลป์ฯแล้ว แต่เขาบอกไม่มีในสารระบบข้อมูล ตอนนั้นตนก็มืดแปดด้านเหมือนหน้าแหกกลับมาเลย จึงมองว่าตนโดนถูกเลือกแล้วหรือเปล่า ซึ่งตนมีหนังหน้าครูเยอะที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ ตนเลยถามลุงด้วยว่า หนังหน้าเหล่านี้เป็นหนังหน้าครูอะไรของใคร ทางคุณลุงบอกหนังหน้าครูละคร ตนก็ถามว่าละครอะไร เอามายังไง ลุงบอกว่าเอามาจาก “คลองละคร” ปัจจุบันเรียกว่า “คลองมโนราห์” อยู่ในบ้านแพน หรือ เสนา ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็เลยไปเช็กว่าคลองนี้มีอยู่จริงไหม สรุปมีอยู่จริงตั้งแต่สมัยอยุธยาต้นถึงต้นกลาง

และในส่วนของทางกฎหมายนั้น เราได้สอบถามไปหมดแล้ว ว่าสามารถครอบครองได้ เนื่องจากเป็นมรดกตกทอดกันมาจากคนเก่าแก่ แต่ถ้าหากนำไปทำให้เสียชื่อเสียง หรือนำไปค้าขายจะทำให้ผิดกฎหมาย เราก็เลยจะขอรักษาเก็บเอาไว้ให้อยู่กับเราต่อไป โดยคิดว่าเหมือนเป็นการได้รับมรดกตกทอด