ตำรวจไซเบอร์ ประสานอัยการสูงสุด-อินเตอร์โพล ล่า "บังแจ๊ค" ขอออกหมายแดงจับกุม ส่งตัวกลับมาดำเนินคดี ชี้"เป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว"
จากกรณีศาลอาญามีนบุรี ออกหมายจับบังแจ๊ค หรือนายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ ใน 2 ข้อหา ได้แก่ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา, นำข้อมูลที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ ที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง หรือได้รับความอับอายฯ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ล่าสุดวันนี้ (10 มิ.ย.65) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท) เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินการติดตามจับกุมตัวบังแจ๊ค โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องประสานงานกับ 2 หน่วยงาน หน่วยงานแรก คือสำนักงานอัยการสูงสุด เนื่องจาก "บังแจ๊ค" มีถิ่นพำนักอยู่ในต่างประเทศ ต้องตั้งเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และให้อัยการสูงสุดเป็นเจ้าภาพในการประสานการติดต่อดำเนินคดี
ส่วนอีกหน่วยงาน คือองค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล (INTERPOL) ที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า "บังแจ๊ค" เป็นผู้ที่มีหมายจับ และเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต้องการขอให้พิจารณาออกหมายแดง และตามจับกุมตัวส่งกลับมาดำเนินคดี
ส่วนกรณีการให้ปากคำของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ในฐานะพยาน พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า คณะทำงานยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานและผลการสอบปากคำที่แม่ได้ชี้แจง และแสดงความบริสุทธิ์ โดยการให้ตำรวจเก็บข้อมูลโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ ซึ่งยืนยันว่า ผลการตรวจสอบ ตำรวจพบพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์มาก แต่เปิดเผยในรายละเอียดไม่ได้
หลังจากนี้ อาจมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่เข้าแจ้งความกับ "บังแจ๊ค" เพราะการโพสต์ข้อความและรูปภาพเกิดขึ้นหลายครั้ง ต้องแยกการดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ และหาก น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ที่เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ไปพบความเสียหายใหม่ แล้วต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีอีกก็สามารถทำได้