ม็อบ "เดินไล่ตู่" นัดชุมนุมครั้งแรกหลังเปิดประเทศ เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรย์ ปชต.- อนุสาวรีย์ชัยฯ แสดงจุดยืนไม่เอา "พล.อ.ประยุทธ์" ด้านตร.ขออย่าฝ่าฝืนกฎหมาย เฝ้าระวังสถานที่ราชการ-บ้านพักนายกฯ เตรียมกำลังปรับเปลี่ยนกำลังรับสถานการณ์

 

วันที่ 11 มิ.ย.65 กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า "ราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ" นัดรวมตัวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินขบวนไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมกิจกรรม "เดินไล่ตู่" แสดงจุดยืนว่า ไม่เอารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมารวมตัวกันตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินขบวน ส่วนใหญ่อยู่บริเวณทางเท้าริมถนนราชดำเนินฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งการรวมตัวในช่วงแรกยังไม่กระทบการจราจรบริเวณดังกล่าว และเริ่มเดินขบวนในเวลา 15.30 น. ใช้เส้นทางถนนราชดำเนิน เข้าถนนหลานหลวง มุ่งหน้าเข้าถนนเพชรบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยการชุมนุมครั้งนี้ไม่มีแกนนำและใช้รถจักรยานยนต์ในการเคลื่อนขบวนเป็นหลัก มีการตะโกนไล่นายกฯ และบีบแตรส่งสัญญาณตลอดเส้นทาง

สำหรับการดูแลความปลอดภัยโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีกำลังตำรวจประจำพื้นที่ และปิดเส้นถนนราชดำเนินบริเวณแยกผ่านฟ้า ให้ใช้ได้เฉพาะถนนนครสวรรค์ และถนนหลานหลวงซึ่งเป็นไปตามเส้นทางเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุม

ด้านพลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า ตำรวจมีการเตรียมความพร้อมไว้ระดับหนึ่ง เพราะผู้ชุมนุมกำหนดใช้เส้นทางสัญจรหลักของประชาชน ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 14:00 น. เป็นต้นไป คาดว่า การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย แต่หากมีความรุนแรงก็เตรียมกำลังไว้พร้อม

ส่วนกรณีที่การจัดกิจกรรมไม่มีแกนนำจะเป็นอุปสรรคต่อการจัดการของเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น มองว่า ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ตำรวจให้ความสำคัญ เนื่องจากการรวมกลุ่ม หากมีแกนนำก็จะง่ายต่อการปฏิบัติงานแบบประสานงาน ซึ่งจะสามารถควบคุมกำกับดูแลได้ แต่พอไม่มีแกนนำก็อาจทำให้ผู้ชุมนุมไม่มีเอกภาพในการเคลื่อนที่หรือจัดกิจกรรม

ทั้งนี้ จากการข่าว ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องการพกอาวุธเข้าพื้นที่ แต่ได้กำหนดมาตรการตั้งจุดความมั่นคง สกัดกั้นอาวุธ เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนทั่วไป พร้อมฝากถึงผู้ชุมนุมว่า แม้จะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การใช้สิทธิที่กระทบกับสิทธิของผู้อื่นก็ขอให้คำนึงถึงประชาชนที่พักอาศัยหรือเดินทางจนอาจได้รับความเดือดร้อนด้วย และปัจจุบันขณะนี้สถานการณ์โควิด-19ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ การรวมกลุ่มก็เป็นส่วนหนึ่งอาจทำให้การแพร่ระบาดโควิดได้

เช่นเดียวกับพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากถึงผู้ชุมนุมว่าขณะนี้ยังมีการบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน และมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยประเมินสถานการณ์ ยืนยันไม่ได้อยากจับกุมใคร ขอให้ทำกิจกรรมทำทุกอย่างภายใต้กรอบกฎหมาย ทั้งเรื่องการใช้เครื่องเสียง การจราจร และพรบ.ความสะอาด

ส่วนกรณีมีการชุมนุมใกล้สถานที่สำคัญ และสถานที่ราชการหลายแห่งนั้น ยืนยันว่าตำรวจระวังอยู่แล้วโดยจะมีการประกาศแจ้งเตือนเป็นระยะว่าการกระทำเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฏหมาย ส่วนปลายทางที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่ใกล้กับบ้านพักของนายกรัฐมนตรี ในด้านการข่าวก็ยังมีการตรวจสอบความเคลื่อนไหว เพื่อให้สามารถตั้งรับการกระจายตัวของผู้ชุมนุมได้ ทั้งนี้วางกำลังตำรวจนั้นมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เชื่อว่าเพียงพอต่อการรับสถานการณ์