"นายกฯ" ชู "สวนเบญจกิติ" เป็นแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุง
"นายกฯ" ปลื้ม "สวนเบญจกิติ" แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ชีวิตคนกรุง ปรับโฉมกรุงเทพฯ เป็นเมือง Amazing Natural Park

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่สวนเบญจกิติ เป็นอีกสถานที่สำคัญให้ประชาชนเยี่ยมชม และทำกิจกรรมหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ได้รับความนิยมจากประชาชนทุกกลุ่มวัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ และสร้างสีสันให้แก่พี่น้องประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกับกองทัพ เข้ามาพัฒนาพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบเป็นสวนเบญจกิติ ตั้งใจให้เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยออกแบบภายใต้แนวคิด "ปลูกป่าในใจคน"

ซึ่งล่าสุด กองทัพบกได้ จัดกิจกรรม "ดนตรีในสวน" เติมพลังกายพลังใจคืนความสุขให้กับชาวกรุงเทพฯ โดยกองทัพบกจัดวงดนตรี 5 วง สลับหมุนเวียนไปบรรเลงขับกล่อมสร้างความสุขให้ประชาชนที่มาออกกำลังกายและพักผ่อน ตลอดเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมนี้ ในช่วงเย็นของวันหยุดสุดสัปดาห์ เวลา 17.00-19.00 น.

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในสวนเบญจกิติ ประกอบด้วยพื้นที่และกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ เส้นทางออกกำลังกาย ซึ่งแบ่งเป็นเส้นทางเดินลัดเลาะชมธรรมชาติ 5.8 กิโลเมตร เส้นทางวิ่ง 2.8 กิโลเมตร และเส้นทางจักรยาน 3.4 กิโลเมตร นอกจากนี้ เด็กและเยาวชนยังจะได้ศึกษาระบบนิเวศและธรรมชาติ โดยมีแปลงนาสาธิต ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ ลานกิจกรรมและอัฒจันทร์ที่รองรับผู้ใช้งานกว่า 15,000 คน รวมทั้งยังมีทางเดิน Skywalk ระยะทาง 1.6 กิโลเมตรเชื่อมต่อไปถึงสวนลุมพินี และแผนเชื่อมโยงในอนาคตคือจะเชื่อมต่อไปยังสวนสาธารณะใกล้เคียง ถือเป็นโอกาสปรับโฉมกรุงเทพฯ ให้เป็นเมือง Amazing Natural Park ด้วย

"นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ และผลักดันโครงการเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่แก่พี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยสวนเบญจกิติ เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจ เพิ่มพื้นที่สีเขียวใจในเมือง ลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และเพิ่มพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนทุกกลุ่มมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ได้สัมผัสเรียนรู้ธรรมชาติ และประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งตอบโจทย์วิถี New Normal และยังเป็นสัญลักษณ์เชื่อมความผูกพันระหว่างปวงชนชาวไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็น 1 ในแลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่ดึงดูด เชื่อมโยง และตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติในอนาคต" นายธนกรฯ กล่าว