"อนุทิน" ย้อนกลับเสพกัญชาเกินขนาด ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น อัดคนปล่อยข่าวหวังผลการเมือง ดิสเครดิตนโยบายพรรคภูมิใจไทย ย้ำมีเป้าหมายเพื่อทางการแพทย์ บอกเตือนตลอด สูบ-เสพ ไม่ควรทำ

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการรายงานจากสำนักอนามัย และสำนักการศึกษา พบผู้ป่วยจากการใช้กัญชาแล้ว 4 คน โดยมี 1 คน เป็นผู้เสพกัญชาเกินขนาดจนเสียชีวิต โดยนายอนุทิน ย้อนถามว่า การเสพกัญชาเกินขนาด ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ตอนที่ปลดล็อก เหตุใดจึงเพิ่งมารายงานตอนนี้ เขาต้องการอะไร ขอให้ผู้สื่อข่าวประเมินและวิเคราะห์ พร้อมย้ำว่า อย่าเข้ามาก้าวก่าย หรือเปรียบเทียบกับคนอื่นว่า เขาไม่หวังดีกับประชาชน และยืนยันว่าคนที่เข้ามาทำงานการเมืองยึดประชาชนเป็นที่ตั้งทุกคน

เมื่อถามต่อว่า หากตัดเรื่องการเมืองไป จะเตือนประชาชนในเรื่องการใช้กัญชาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราเตือนไปทุกรูปแบบแล้ว เป้าหมายคือต้องการให้ใช้ทางการแพทย์ ส่วนการเสพ การพี้ ปุ้น เป็นสิ่งที่ทำเพื่อสุขภาพหรือเปล่าตนเตือนมาโดยตลอด ว่า การสูบกัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ควร ยกตัวอย่างในโรงเรียนถูกสูบบุหรี่ยังถูกตี ถ้าสูบกัญชาคงถูกไล่ออก อย่างไรก็ตาม สามารถหลีกเลี่ยงการสูบกัญชาได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ต่างกับการดื่มสุราหรือการสูบบุหรี่ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะขาดไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่าการที่ให้ประชาชนคิดเอง ถือเป็นการผลักภาระหรือไม่ นายอนุทิน ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พร้อมระบุว่า "นี่เป็นการถามแบบหาเรื่อง เราบอกว่าใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ถ้าบอกว่าเราโยน มันเป็นการโยนเรื่องที่ดีให้กับประชาชน ส่วนที่มีการปล่อยข่าวดังกล่าวนี้ เพื่อหวังผลอะไรนั้น นายอนุทิน กล่าว เรื่องนี้ก็รู้ๆ กันอยู่ เรื่องเป็นประโยชน์ไม่พูด ไปพูดแต่เรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์

อันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง มันผ่านมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ซึ่งให้ไปดูตอนเสนอ พรบ.กัญชา มีทั้ง สส. ฝ่ายค้านและรัฐบาล ตรวจสอบรายชื่อได้หมด 400 คน ดังนั้น เขาต้องเห็นว่าเรื่องนี้มีคุณประโยชน์"

เมื่อถามถึงกรณี สว.เสนอให้มีการออกพระราชกำหนด ในช่วงสูญญากาศระหว่างรอกฎหมายกัญชา-กัญชงแล้วเสร็จ นายอนุทิน ระบุว่า มีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว แต่เมื่อมีใครให้ข้อเสนอแนะอะไรมา เราก็พร้อมที่จะศึกษาเพื่อเป็นประโยชน์ และดูว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไร ตอนนี้ก็รอประกาศการห้ามสูบกัญชาในที่สาธารณะ และห้ามก่อให้เกิดความรำคาญต่อบุคคลอื่น ซึ่งกำลังจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษา

อย่างไรก็ตาม พรก. ที่ทางสว. เสนอนั้น มองว่ามีความซ้ำซ้อน เพราะมีอยู่ในประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว และอีกไม่นาน พรบ.ที่สภาฯกำลังพิจารณา ก็ใกล้จะแล้วสร็จ ซึ่งมีการตั้งไทม์ไลน์ไว้แล้วว่าจะให้เสร็จภายในสมัยประชุมนี้

พร้อมกับย้ำ หากทุกคนใช้ด้วยเจตนารมย์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพสุขภาพ และด้านการแพทย์ มันจะไม่เกิดปัญหาอะไรที่ต้องกังวล แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะมีการใช้ในทางที่ผิด เช่น การเสพที่ไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาโรค หรือทำให้สุขภาพดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่เจตนารมย์ของการทำให้กัญชาเสรี นอกจากนี้เราพยายามทำความเข้าใจการใช้กัญชาอย่างถูกต้องในทางการแพทย์มากว่า 3 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาปล่อยให้เสรีโดยยังไม่ศึกษาอะไรเลย ซึ่งมีความตั้งใจเพื่อให้เกิดสุขภาพที่ดีแก่พี่น้องประชาชน เสริมสร้างรายได้ โดยไม่มีการเมืองอะไรทั้งสิ้น แต่กลับมีความพยายามนำเรื่องนี้ไปบวกกับการเมือง และพยายามดิสเครดิต นโยบายของพรรคภูมิใจไทยต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน