วงไม่แตก! "แม่แตงโม" ยันไม่ได้โกรธ "อัจฉริยะ" ยังคุยกันได้ แต่ไม่ถึงกับเชื่อใจ ย้ำไม่อยากฟ้องเป็นคดีฆาตกรรม ขอรอดูคำฟ้องก่อนตัดสินยื่นแก้ไขคำฟ้อง รับยังคุยกับ "ปอ" แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน
วันที่ 15 มิ.ย.65 นายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ ทนายความในทีมของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สส. พรรคไทยศรีวิไลย์ พานางภนิดา ศิระยุทธ โยธิน "แม่แตงโม" มายืนยันคำขอยกเลิกหนังสือมอบอำนาจ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ หลังวานนี้ (14 มิ.ย.) ส่งอีเมลมายืนยันต่อศาลแล้ว วันนี้ (15 มิ.ย.) จึงต้องมายืนยันด้วยตนเอง โดยภายหลังใช้เวลาดำเนินการนานกว่า 3 ชั่วโมง
ด้านนายบุญถาวร ได้ให้สัมภาษณ์ร่วมกับแม่แตงโม ว่า เดิมทีตั้งใจมาถอนคำฟ้องของนายอัจฉริยะ แต่เมื่อมาคัดคำฟ้องพบว่า นอกจากนายอัจฉริยะจะยื่นฟ้อง มาตรา 288 และมาตรา 289 ในเรื่องของเจตนาฆ่าแล้ว ยังยื่นฟ้องมาตรา 290 ที่ระบุ "ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย" ในคำฟ้องด้วย จึงไม่สามารถดำเนินการขอยกเลิกคำฟ้องได้ เพราะคำฟ้องสมบูรณ์แล้ว และศาลก็นัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วด้วย ในวันที่ 22 ส.ค.65 เวลา 13.00 น. ดังนั้น หากถอนคำฟ้องไป แล้วมายื่นฟ้องตามมาตรา 290 ใหม่ จะกลายเป็นการฟ้องซ้ำ เราจึงจะยึดคำฟ้องของนายอัจฉริยะ แต่จะมายื่นแก้ไขคำฟ้องในภายหลัง ขอให้แม่แตงโมได้พิจารณาคำฟ้องอย่างละเอียด พร้อมกับพยานหลักฐานก่อน ถึงจะดำเนินการแก้ไขคำฟ้องต่อไป เพราะที่ผ่านมาแม่ไม่เคยได้เห็นพยานหลักฐานที่อยู่ในมือของนายอัจฉริยะเลย ส่วนเรื่องถอนหนังสือมอบอำนาจนายอัจฉริยะนั้น ศาลนัดฟังวันที่ 20 ก.ค.65
ทั้งนี้นายบุญถาวร ยังกล่าวยืนยันว่า ไม่ได้วงแตก แต่เป็นเพียงการเห็นไม่ตรงกันในข้อกฎหมาย ดังนั้น ยังสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะนายอัจฉริยะก็ถือเป็นหนึ่งในพยานคนสำคัญในคดีนี้ แล้ววันนี้ก็ยังรอพูดคุยทำความเข้าใจกับนายอัจฉริยะอยู่
เมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงทนายความ นายบุญถาวร กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่รับใครมาเป็นทนายแทน เพราะตนเองได้แนะนำแม่ว่า แม่สามารถยืนฟ้องเองได้ และไปใช้ทนายตอนไต่สวนเพื่อซักค้าน และสามารถแต่งตั้งเพิ่มอีก 10 คนก็ได้ แต่วันนี้ก็ยังไว้ใจทีมทนายของนายอัจฉริยะเช่นเดิม ส่วนที่นายอัจฉริยะขู่ยื่นถอนใบประกอบวิชาชีพทนายความทุกคนที่มารับทำคดีให้แม่ ย้ำว่ายังสามารถพูดคุยกันได้ เพราะตอนนี้ก็ยังรอโทรศัพท์นายอัจฉริยะอยู่
ขณะที่วันนี้ (15 มิ.ย.) นางภนิดา มีสีหน้าไม่ค่อยดี แต่ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้เครียดเรื่องคดี เพียงแค่อดนอน และยังไม่ได้กินข้าวทำให้อิดโรย พร้อมยืนยันอีกว่า ไม่โกรธนายอัจฉริยะถึงขั้นจะฟ้อง ยังพูดคุยกันปกติ แต่ก็ไม่สามารถใช้คำว่าเชื่อใจได้ โดยแม่แตงโมยังกล่าวย้ำว่า ความรู้สึกส่วนตัวไม่ได้อยากฟ้องเป็นคดีฆาตกรรม เพราะไม่อยากจองเวรใคร และมองว่าคงไม่ใช่เจตนาฆ่าตั้งแต่ต้น แค่เชื่อว่าลูกถูกทำร้าย
ส่วนเรื่องการฟ้องแพ่ง ขณะนี้มีการคืนเงิน 250,000 บาท ให้ สส. เต้ แล้ว แต่ที่ผ่านมาตนเองไม่ทราบว่าจะมีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท เพราะในใจไม่มีเรื่องเงินเลย ไม่ประสงค์เงินสักบาทเดียว พร้อมยอมรับอีกว่า ยังมีการคุยกับคนบนเรืออยู่ โดย “ปอ” เป็นคนโทรมาหาแม่เอง ซึ่งคุยล่าสุดเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา แต่รายละเอียดไม่ได้คุยเรื่องเงิน เป็นเพียงการถามถึงสารทุกข์สุขดิบธรรมดา เช่น ทำอะไรที่ไหนวันนี้ แต่ยอมรับว่าเคยจะนัดคุยเรื่องเงิน แต่ไม่ได้พบกันเลย