ลาล่า อาร์สยาม" ถอยรถหรูให้ตัวเอง ไม่วายโดนดรามาขี้อวด วอนชาวเน็ตหยุดด่า หันมายินดีเเทน
คิดยังไงถึงตัดสินใจออกรถหรู เป็นของขวัญให้ตัวเองใช่ไหม?
-คือเราไม่ได้คิดว่ามันต้องได้วันนั้น ซึ่งให้อาจารย์เขาดูฤกษ์ออกให้ เเละคือเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ช่วงบ่ายโมงกว่า มันเป็นฤกษ์ดีของเรา ซึ่งมันก็โดนบล็อกหลายอย่างในก่อนหน้านี้ เเต่พอได้ฤกษ์ดีก็เลยออกเลย
ทำไมรอบนี้ตัดสินใจออกรถหรูด้วยตัวเองเลย?
-เรียกว่าตั้งแต่เราทำงานมา มีแต่ภาระที่เราทำมาตลอดทั้งปี พอหันมามองตัวเองคิดว่าลืมให้รางวัลตัวเองเราหรือเปล่า มีบ้านให้กับพ่อแม่ มีที่อยู่ที่ดินแล้ว แต่ในช่วงนี้เราเดินทางเยอะและหลายอย่าง มีทั้งธุรกิจด้วย เราก็เลยอยากให้รางวัลตัวเองกับการที่เหนื่อยมาในช่วงโควิดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ก็เลยคิดว่าให้รางวัลตัวเองเถอะ จะได้มีเเรงแอคทีฟในการทำงานต่อ
ตัดสินใจอยู่นานไหม?
-ก็คือไม่นาน เพราะเรารู้สึกว่าอยากได้ก็เอาเลย คือการลังเลว่ามันจะทำได้ไหม มันจะเป็นยังไง จะมีแต่ความลังเลอยู่ แต่ถ้าเราคิดว่าอยากจะซื้อเลย ซึ่งก่อนหน้านั้นเราสวดมนต์ คิดปล่อยวางเเละเรียงลำดับชีวิตมาแล้ว เราอยู่กับความผิดพลาดในช่วงโควิด ได้อยู่กับตัวเองได้อยู่กับหลายสิ่งหลายอย่าง เลยทำให้เรามีชีวิตที่ขึ้นมาอีกสเต็ปหนึ่ง พอเราบอกว่าวันนี้อยากได้ก็ทำ จะบอกว่าไม่ได้อยากได้ทุกวัน แต่เราตั้งแล้วจะเอามาวางแผน ก็เลยโทรไปถามว่ามีรถไหม เค้าบอกว่ามีเราก็เลยไปเอาเลยก็ถอยเลยมันก็จบ พอเราได้มาเราก็รู้สึกว่ายินดีต้อนรับสู่ชีวิตเรา
เเละเรารู้สึกว่ามันทำได้แล้ว และก็ทำต่อไป เพราะพอเราอยู่กับธรรมะเยอะๆ อันนี้มาช่วยเหลือจริงๆ เรารู้สึกว่าถ้าเราได้อะไรมามากๆ ในสิ่งที่อยากได้กับสิ่งที่ไม่ได้มากๆ แล้วเราจะเสียใจ ทั้งหมดทั้งมวลมันคือกิเลส แต่พอมาได้มาแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือมันก็อยากได้ใหม่อีก แต่อันเนี่ยมันคือการที่เราจะต้องประคองชีวิต ไม่ต้องอยากได้มากเกินไป และอยู่กับสิ่งที่เรามีก็คือการบาลานซ์ชีวิต มันก็เลยมีความสุขที่ว่าเราได้มาแล้วเราดูเเลเธอให้ดี
ออกเป็นเงินสดเลยหรือป่าว?
-สำหรับคันนี้ก็เรียกว่าวางเงินสดไปหลายอยู่นะ ก็ดาวน์ไปเยอะ ตัวเลขหลายหลักอยู่ เเต่ใจจริงก็อยากจะจบนั่นแหละ แต่เดี๋ยวสิ้นปีนี้อาจจะปิดเลยก็ได้
แต่หลายคนก็ไปโฟกัสไปที่ตัวเลขทะเบียนนะ?
-เราก็ตกใจนะ เพราะมันตรงกับเลขดัง แล้วก็ตรงกับทะเบียนรถคันเก่าของเราด้วย ที่มันมี 46 แล้วก็คันนี้เราเป็นป้ายแดง 9561 แล้วมันไปตรงกับเลขดังของหลายๆ ที่ด้วย มันอะเมซซิงมากๆ ก็ลองดูแล้วกันนะ ถ้าหาซื้อได้ก็ลองดู เราก็จะตามนะเเละก็ภาวนาว่าถ้าน้องไม่ให้งวดนี้ ก็ภาวนาออกงวดหน้า ให้หยิบขึ้นมาก็ขอให้ได้
พอเราได้รถมาแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?
-รู้สึกว่าพอเราเข้าไปนั่งแล้วมันเกิดพลังบวก เรารู้สึกว่าเค้าจะพาเราไปเจอกับสิ่งดีๆ แบบว่าดับเบิลหลายๆ อย่าง ให้เราไปเจอคันที่ใหญ่กว่านี้ แต่เราก็ตั้งไว้แล้วก็ต้องกลับมาทำด้วย ไม่ได้อยากได้จนเกินไป แต่พอรู้สึกว่าพอเราตั้งมันไว้แล้วมันได้เร็วกว่าปกตินะ แต่ถ้าเราตั้งไว้แล้วเราไม่ทำมันก็จะได้ยาก
กลัวดรามากับชาวเน็ตไหม เพราะเราชอบโดนเเซะประจำ?
-เพราะว่าเราไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นดรามาตลอด เอาจริงนะเขาคือภาระไหม ก็คือภาระก็จริงนะ เเต่เราไม่ได้ไปวิ่งขอเงินใคร แต่คนที่มาช่วยเรานั้นอย่างครั้งก่อนที่ “ฟิล์ม” เขามาช่วยเรา คือเขานำเสนอเรามา เราก็แค่รับไว้ ซึ่งมันเป็นเงินต่อทุนชีวิตต่างๆ ก็ทำให้เราดีขึ้นก็ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้ใคร อันนั้นคือคุยกับเขาเเล้ว คือเขาเข้ามาช่วยเหลือเราเขาก็ไม่ได้เดือดร้อน ดังนั้นการโพสต์นั่นนี่ในช่วงนั้น คือเราอยู่ในภาวะที่เราเข้าใจวัฏจักรในช่วง 2 ปีที่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ในโลกใบนี้ ที่เศรษฐกิจแบบนี้ ที่มีโควิดอยู่แบบนี้ ก็ต้องสู้ไป แต่เรากลับภูมิใจว่าเราทำได้ไงวะเนี่ย จนเกิดความสำเร็จและความภาคภูมิใจว่าเราสามารถสู้กับเธอได้จริงๆ กับภาวะแบบนี้ เราก็ไม่อยากให้คนมาดรามาในส่วนที่เราเป็น อยากให้ทุกคนมาร่วมภูมิใจไปกับเราดีกว่า ว่าเราสามารถทำได้และทำให้เห็นด้วย
เหมือนเป็นคู่อริกับชาวเน็ตตลอดเลยนะ?
-คือชอบคิดต่างจากเรา แทนที่เค้าจะดีใจกับเรา แต่กลับเป็นว่าเค้าคิดว่าแต่เราขี้อวด คือจะบอกว่าความสำเร็จไม่มีใครไม่อยากอวดหรอก ที่เราอวยอันนี้เพราะเราทำสำเร็จ ที่ทำให้เห็น แค่เราไม่ได้ทำให้คนอิจฉา ถ้าคุณมีความตั้งใจมันสามารถทำได้ เราเคยล้มมาเหมือนกัน สิ่งที่เราโพสต์ไปคือเราเคยเหนื่อยเคยพลาดจริงๆ แต่สิ่งที่เราโพสต์ตอนนี้ขึ้นมาคือสำเร็จจริงๆ เราเลยโพสต์ ที่เป็นโพสต์อวดความสำเร็จไม่ได้โพสต์อวดให้คนอิจฉา อันนี้มันเกิดจากหยาดเหงื่อแรงงานเราจริงๆ ไม่ใช่ว่าเรายืนอยู่เฉยๆ แล้วจะได้สตางค์มาใช้ บวกกับการลงมือทำงานของเรา
อยากจะบอกอะไรกับชาวเน็ตไหม?
-อยากจะบอกว่ามาร่วมชื่นชมกับเราดีกว่า อย่าดราม่าเลยนะ ซึ่งเราก็จะเห็นในหลายโพสต์ที่เค้ามาดราม่าในโซเชียลของเรา ซึ่งมันก็จะเห็นตลอดเเหละ แต่เราก็ไม่ได้อะไร เพราะช่วงนี้งานเยอะและก็มองผ่านบ้าง เเต่บางครั้งเราก็รู้สึกเสียใจนะที่บางทีเราไม่รู้จักกันเลย และพวกเขาจบสถาบันอะไร เรียนหลักสูตรไหน ทำไมคำด่าเจ็บแสบอะไรขนาดนี้ ขอร้องนะเบาเฝๆ ลงหน่อย เรียกว่า “เบาได้เบา”