"ขวัญ อุษามณี" เลิกหนุ่มข้าราชการ รับมีรักใหม่แล้ว เผยถ้าอายุ 40 ปี จะขอเฟดตัวจากงานในวงการ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางเอกสาว "ขวัญ อุษามณี" ตกเป็นข่าวว่ากำลังซุ่มคบหาดูใจอยู่กับ "ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์" เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่ล่าสุดเธอได้ปฏิเสธชัดว่า "คนที่เป็นข่าวอยู่ไม่ใช่" พร้อมอัปเดตสถานะหัวใจตอนนี้ไว้ว่า
ได้กลับมาทำงานแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?
-ตอนนี้ละครก็มีเรื่องนี้ค่ะ ตอนนี้เราก็เดินทางมาครึ่งปีแล้ว สำหรับขวัญเรื่องนี้คือหนักมาก ขยี้ทุกซีน ไม่ค่อยมีละครง่ายๆ มาถึงขวัญเลยจริงๆ ละคร comedy น่ารักๆ ติดต่อขวัญมาได้นะคะ หนูก็เล่นได้ อันนี้อ้อนวอนเลย ส่วนใหญ่จะมีแต่ดรามาหนักมากเข้ามา อาจจะทุกคนชอบที่เห็นขวัญร้องไห้มั้ง แต่มันเหนื่อยมากนะ อย่างเรื่องนี้ซีนที่ทุกคนเห็นกันว่าขวัญร้องไห้นี่คือมันไม่ได้ถ่ายกันเหมือนเมื่อก่อน ทุกอย่างก็นิวนอร์มัลจริงๆ เมื่อก่อนถ่ายซีนหนึ่งก็ 1-2 Take แต่การถ่ายทำตอนนี้จะเป็นเฟรม เป็นแบบ Close up แล้วก็เป็นเฟรมกว้างอีกที ฉะนั้นเราต้องเล่นทั้งหมด โดยส่วนตัวขวัญเล่นกั๊กไม่ได้ มันมาแล้วมันมาเลย ขวัญก็ต้องค่อยๆ พยายามปรับไป
ในการทำงานตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง?
-ก็ปรับการทำงานทุกวันค่ะ พอเราโตขึ้น เราเรียนจบในหลายๆ ด้านมา เราก็สามารถเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เรียนมาในชีวิตตั้งแต่ตั้งต้นมาปรับมาประยุกต์ใช้ เหมือนที่เขาบอกว่าเรียนไปเถอะ เรียนอะไรก็ได้ ถึงเวลามันมีประโยชน์ ทุกครั้งที่เราเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา เรารู้ว่าเราจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ยังไง ใช้คำพูดแบบไหน จิตวิทยาเราต้องคิดยังไง
จะขอทำงานต่อให้ถึงสักอายุ 40 ใช่ไหม ก่อนจะขอพักจริงจัง?
-ก็รับละครทีละเรื่องค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีเวลาส่วนตัวให้ตัวเองเลย อาจจะมีแค่วันหนึ่งต่ออาทิตย์ เรา 34 ปีแล้วนะ เรียกว่าเดินทางมาครึ่งชีวิตแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่เราต้องสร้างและลงหลักปักฐานชีวิต รู้สึกว่าที่ผ่านมาชีวิตเราสนุกพอแล้ว สนุกมาพอแล้ว ตอนนี้มันเป็นช่วงที่เราจะต้องสร้างรากฐานให้ตัวเอง วางอนาคตให้กับครอบครัวในวันข้างหน้า และคนข้างหลัง ก็คุยกับเพื่อนว่าเดี๋ยวสัก 40-50 ปี เราจะไม่ทำอะไรเลย (ลากเสียงยาว) แบบจะนอนทำเล็บสวยๆ อยู่ในดงดอกไม้ เราไม่ได้เติบโตมาจากสายธุรกิจ เราก็เรียนรู้จากความผิดพลาดบ้าง แก้บ้าง ยิ่งเปิดบริษัทแม่บ้าน และบริษัทเครื่องสำอาง มันคือสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว มันไม่ใช่ช่วงจังหวะที่เราว่างแล้วเราก็ไปอยู่กับเพื่อนเหมือนเมื่อก่อน แต่เราว่างเราก็พยายามหาความรู้ให้ตัวเอง ต่อยอดธุรกิจมากกว่า
คือถ้าเข้าหลัก 4 แล้วจะขอเฟดตัวจากวงการใช่ไหม?
-ก็อาจจะเฟดค่ะ ถ้าเกิดว่าเรามีครอบครัว มีลูก เราก็อาจจะมีช่วงที่อยากจะไปเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เกิดมาแบบพี่เลี้ยงเลี้ยงเรามา ไม่ได้ให้พ่อแม่จะต้องเป็นคนเลี้ยงเรา เพราะเราก็มีความทรงจำที่ดีกับตรงนี้ ถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันบ้าง (หัวเราะ) แต่เราอบอุ่น แล้วเรื่องพวกนี้เรารู้สึกว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้
มีคนศึกษาดูใจอยู่ แต่ไม่ใช่คนที่เป็นข่าวด้วยจริงไหม?
-เรื่องแต่งงานก็คิดไว้แล้ว แต่หาก่อน ตอนนี้ก็มีคนคุยค่ะ กำลังศึกษาดูใจกันอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ลงข่าวกันนะคะ คนนั้นไม่ใช่
เอ๊ะ..มีแฟนใหม่เหรอแบบนี้?
-ไม่ใช่แฟนคนใหม่ คนที่เป็นข่าวอยู่ไม่ใช่ ถามว่าแยกย้ายกันแล้วใช่ไหม ใช่ค่ะ คุณอาเขาก็เป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพในเรื่องขององค์ความรู้ไป แต่ในเรื่องของชีวิตคู่ก็สีชมพูอยู่ ถามว่า move on มีรักครั้งใหม่หรือเปล่า ไม่ได้ move on เราสีชมพูเหมือนเดิมตลอดเวลา ครั้งนี้จะไม่ให้ข้อมูลอะไรแล้ว เดี๋ยวมันไม่ใช่อย่างที่คิด ขำๆ หมอดูทักมีแล้วห้ามเปิด
รอพร้อมแล้วเปิดทีเดียวใช่ไหม?
-ยังไม่ได้ท้องนะ (หัวเราะ) เราก็ถือเรื่องเคล็ดด้วย แต่ก็ไม่ได้ปิดนะ ก็ใช้ชีวิตปกติ ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ เขาไม่ได้เป็นคนในสื่อ เขาไม่ได้อยู่ในสื่อมากกว่า คือเขาก็ทำงานทำธุรกิจของเขาไป อย่างเราทำงานในวงการถ่ายละคร ตื่นเช้าอะไรแบบนี้มาเจอพี่ๆ สื่อ ของเขาก็ทำงานธุรกิจอะไรของเขาไป เขาไม่โตกว่าค่ะ เท่าๆ กันแหละ
คนนี้เขาดีกับเรายังไงบ้าง?
-ก็เป็นคนดีค่ะ คือว่าดีกับเราโดยที่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ มาแอบแฝง (คุยกันนานหรือยัง) นานค่ะ ก็เดี๋ยวถึงเวลาจะให้ข้อมูล คือเราก็ไม่ทราบว่ายังไง แต่ในปัจจุบันใครดีกับเราก็ดี แต่ถ้าเกิดว่าคนไหนไม่ใช่สิ่งที่เราคิด เราก็ต้องเดินไปหาคนที่ดีกับชีวิตเรา
ทางด้านคุณแม่ให้ผ่านไหมคนนี้?
-คุณแม่ผ่านทุกคนค่ะ ตอนหลังมาคุณแม่ผ่านทุกคน ส่วนเรื่องถูกเปิดวาร์ป เขาเข้าใจทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าอยู่ในชีวิตกันค่อนข้างนานเหมือนกัน อย่าเพิ่งเปิดวาร์ปนะ (หัวเราะ) ถามว่าหล่อไหม หล่อที่สุดในใจ "Number one in my heart"
วันเปิดตัวธุรกิจใหม่ จะได้เห็นเขาไหม?
-ไม่เห็นหรอกค่ะ คือคนสองคนอยู่ด้วยกัน เรานับถือเรื่องความจริงใจที่สุด เรื่องการโกหกต้องไม่มี เรื่องการเอาเปรียบเอาผลประโยชน์ต้องไม่มี ซึ่งถ้าเกิดมีเรื่องตรงนี้มามันก็เป็นคนรักกันไม่ได้ สร้างครอบครัวกันไม่ได้
พูดถึงกันในเรื่องของอนาคตบ้างไหม?
-เขาไม่ต้องเกริ่นหรอกค่ะ เราบังคับ (หัวเราะ) คือเราไม่ได้ผูกมัดกับใครนะคะ อย่างถ้าเกิดว่าสุดท้ายเราผูกมัดกัน แต่เขาไม่ได้ดีกับเราในปัจจุบันแล้ว เราก็ต้องแยกย้าย เพราะเราก็ต้องดูแลตัวและหัวใจตัวเองเหมือนกัน ถามว่าคุณแม่อยากให้เรามีครอบครัวไหม คุณแม่เชื่อในสิ่งที่เราพูดมากกว่า เพราะว่าอย่างคนอื่น ลมปากคนจะพูดยังไงก็ได้อะไรแบบนี้ แล้วยิ่งเป็นคนที่มาจีบลูกก็ต้องสร้างภาพสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ถามว่าแม่ให้เราสแกนเองไหม ก็ไปเรื่อยๆ ค่ะ ตามทางใช้ชีวิตไปให้เป็นสีชมพู