ตำรวจไทยประสานกัมพูชาจับแก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามประเทศ ปลอมรูปหลอกให้ลงทุนผ่านแอปหาคู่ เสียหายหลายล้านบาท
วันนี้ (22 มิ.ย.65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เปิดเผยกรณีส่งชุดปฏิบัติการ PCT ประสานความร่วมมือตำรวจกัมพูชา เข้าทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 21 ราย โดยเตรียมเดินทางไปรับตัวและสอบปากคำด้วยตนเองที่ จ.สระแก้วในสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้เร่งปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ก่อเหตุหลอกลวงคนอย่างหนัก และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่ตั้งออฟฟิศอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เป็นอุปสรรคในการสืบสวน ติดตาม จับกุมตัวมาดำเนินคดี
แก๊งคอลเซนเตอร์รายนี้ มีวีธีหลอกลวงคน โดยใช้รูปบุคคลหน้าตาดี แชทกับเหยื่อผ่านแอปพลิเคชันทินเดอร์ เป็นแอปหาคู่ หรือ แอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นจะหลอกพูดคุยจนเหยื่อเชื่อใจหรือเริ่มหลงรัก คนร้ายก็จะชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยจะให้ทำการซื้อ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ตามคำแนะนำ และชักชวนให้ลงทุนกับโบรกเกอร์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกให้ลงเงินแต่ไม่มีการลงทุนจริง แล้วเอาทรัพย์สินนั้นไป
คดีนี้ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการที่ 5 PCT ประสานความร่วมมือไปยังฝั่งตำรวจกัมพูชา เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทลายออฟฟิศแก๊งคอลเซนเตอร์ 2 แห่ง ในจังหวัดพระสีหนุ เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 21 มิ.ย.65 ประกอบด้วย จุดที่ 1 โรงแรมจิงเฉิง ถ.สองธนู และจุดที่ 2 คาสิโนโป๋ไหล ถนนปุโลไว 300
เบื้องต้น พบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ทั้งหมด 21 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงิน” ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาจึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินการตามกฎหมายของประเทศกัมพูชาและเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วจะส่งตัวให้ประเทศไทยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายภายในสัปดาห์หน้า และทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ จะเดินทางไปสอบปากคำด้วยตนเองทันทีที่ผู้ต้องหาเดินทางกลับถึงประเทศไทย ที่ อ.คลองลึก จ.สระแก้ว
สำหรับภารกิจการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์โดยเฉพาะแก๊งคอลเซนเตอร์เป็นนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ ทั้งนี้หากพบเบาะ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน สอท.1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-866-3000 หรือ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliconline.com