พระเสพยาบ้า ฉุนเณรลูกเพื่อน 9 ขวบสวดมนต์ไม่ได้ คว้าด้ามตาลปัตรตีดับ สารภาพทั้งน้ำตา "ขอโทษที่ทำลูกมึงตาย" 

 

วันนี้ 1 ก.ค. 65 ตำรวจสภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งจากวัดแห่งหนึ่งว่า พบสามเณรมรณภาพอยู่ภายในกุฏิ เมื่อตรวจสอบ พบสามเณรเอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี มรณภาพในสภาพนอนหงาย ตามร่ายกายทั่วตัวพบรอยฟกช้ำ มีรอยจ้ำเลือดหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ก้น ลำตัว ต้นขาและแขนทั้ง 2 ข้าง นอกจากนั้นยังพบว่าที่กะโหลกศีรษะบริเวณกลางหน้าผากและท้ายทอยขวายุบ ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ พระอรรถพล เพ็งเลา อายุ 30 ปี ถูกควบคุมตัวในที่เกิดเหตุ และเมื่อตรวจสารเสพติดพบว่ามีผลเป็นบวก จึงดำเนินการให้สึกจากความเป็นพระ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายตั้ม (นามสมมติ) พ่อของสามเณรเอ ก่อนจะได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ครอบครัวพาลูกชายมาบวชภาคฤดูร้อน เพื่อศึกษาพระธรรมตามที่ลูกตั้งใจ โดยฝากฝังไว้กับพระอรรถพล เพื่อนสนิท และให้พักอาศัยอยู่กุฏิเดียวกัน ระหว่างที่บวชเรียน ตนและญาติๆ ก็จะผลัดกันมาเยี่ยมสามเณรเป็นประจำ  หลังจากที่บวชทั้งพระและชาวบ้านต่างเมตตาเอ็นดูสามเณรมาก เนื่องจากมีความสำรวม น่ารัก

ต่อมาเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้า ทางบ้านสังเกตเห็นความผิดปกติ พบต้นแขนของสามเณรมีร่องรอยคล้ายถูกน้ำร้อนลวก จึงสอบถามสามเณรก็บอกแต่เพียงว่าประสบอุบัติเหตุ ทางพ่อจึงไม่ติดใจสงสัยอะไร สุดท้ายมาเกิดเหตุสลดขึ้น ส่วนพฤติกรรมด้านยาเสพติดของนายอรรถพล ตนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน  

ด้าน นายอรรถพล ผู้ก่อเหตุ สารภาพว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 มิ.ย. ได้แอบเข้าไปนั่งเสพยาบ้าอยู่ในห้องน้ำของวัด ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 30 มิ.ย. ตนบอกให้สามเณรท่องหนังสือสวดมนต์ แต่สามเณรไม่สามารถท่องจำได้ จึงสั่งให้สามเณรยืนกอดอก แล้วใช้ด้ามไม้ตาลปัตรตีที่ก้น 10 ที จากนั้นสั่งให้นั่งลงแล้วตีไปตามลำตัว ใบหน้า ศีรษะ ท้ายทอย รวมไปถึงใช้มือตบใบหน้า แต่สามเณรก็นั่งนิ่ง ไม่มีอาการต่อสู้ เมื่อเวลา 23.00 น. ยังได้พาสามเณรไปอาบน้ำ ก่อนกลับมานอนพักผ่อน จนกระทั่งเวลา 05.00 น. ตื่นนอนเพื่อจะเตรียมตัวไปบิณฑบาต ก็พบว่าสามเณรมรณภาพไปแล้ว จึงรีบแจ้งให้รองเจ้าอาวาสทราบ

เมื่อสอบถามสาเหตุที่ทำร้ายร่างกายสามเณร นายอรรถพล ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า นายตั้มได้นำลูกมาฝากไว้กับตนเพราะความไว้ใจกัน ตนเองก็รักสามเณรเหมือนลูก ไม่คิดว่า ตนเองจะเป็นคนทำให้สามเณรถึงแก่ชีวิต ที่ผ่านมาสามเณรเป็นเด็กน่ารัก เชื่อฟัง ไม่ดื้อ เก่งหัวไว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตนเข้าใจว่า สามเณรท่องจำบทสวดไม่ได้จริงๆ หรือ แกล้งทำ ส่วนประโยคสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับสามเณรคือ “พรุ่งนี้เช้าเณรจะไปบิณฑบาตด้วยกันมั๊ย” ทั้งนี้ตนอยากฝากถึงนายตั้มว่า “ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ดูแลลูกนายตั้มไม่ได้ ทำลูกเขาถึงแก่ชีวิต