สลด! ระเบิดจากเครื่องบินเมียนมาตกลงกลางวงนั่งกินข้าวบ้าน "ผู้ใหญ่บ้าน" ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พบเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 3 คน ทั้งนี้มีผู้ลี้ภัยมาฝั่งไทยเกือบ 500 คน ด้านกิ่งกาชาด อ.พบพระ มอบข้าวสาร-อาหารแห้ง เพื่อให้การช่วยเหลือ
วันที่ 2 ก.ค. 65 สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (1 ก.ค. 65) ทางเจ้าหน้าที่ไทยในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ได้รับแจ้งเหตุว่า มีเหตุระเบิดจากเครื่องบินรบทหารเมียนมาไม่ทราบชนิด ตกใส่กลางบ้านของนายจอราโด้ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านทิบาโบ จ.เมียวดี ฝั่งประเทศเมียนมา พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน และผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะที่ทั้งหมดกำลังนั่งรับประทานอาหารกันภายในบ้าน ต่อมาได้ประสานมายังฝั่งประเทศไทย ขอผ่อนปรนนำคนเจ็บ 3 คน โดยสารเรือข้ามแม่น้ำเมยมาส่งในฝั่งไทย เพื่อส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไทยได้ยินยอมให้ข้ามฝั่งมารับการรักษาได้ ส่วนผู้เสียชีวิตได้นำศพไว้ฝั่งเมียนมาเพื่อทำพิธีตามประเพณีต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไทยแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน โดยมีเอกสารของทางการไทยออกให้ มีบัตรประชาชนไทย 1 คน บัตรพื้นที่สูง 1 คน และบัตร 10 ปี 1 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 3 คน พบบัตรประจำตัวประชาชนไทย 1 คน บัตรพื้นที่สูง 1 คน อีก 1 คนไม่ทราบตัวตน
โดยก่อนเกิดเหตุ มีเครื่องบินรบมิก 29 ของทหารเมียนมาบินปฏิบัติการโจมตีฝ่ายต่อต้านทางอากาศ จนมีระเบิดตกลงใส่กลางหลังคาบ้านขณะที่ทุกคนในบ้านรวมกลุ่มทานอาหารกันอยู่
ด้านพลตรีประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมทหาร และตรวจสถานการณ์การสู้รบระหว่างฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมากับทหารเมียนมา ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่ง อ.พบพระ จ.ตาก โดยจุดแรกได้เดินทางไปยังกองร้อยทหารราบที่ 1413 ฐานบ้านมอเกอร์ไทย เพื่อดูการสู้รบฝั่งเมียนมา จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 จุด มีผู้ลี้ภัยสงครามประมาณ 470 คน จากนั้นร่วมกับนายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ จ.ตาก และกิ่งกาชาด อ.พบพระ ได้มอบข้าวสาร และอาหารแห้ง ให้กับผู้ลี้ภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
พลตรีประสาน กล่าวว่า ยังคงมีการสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน และไม่มีการใช้เครื่องบินรบล้ำน่านฟ้าไทย เพราะทางไทยได้ประสานไปแล้ว ทั้งในระดับสูง และระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ได้กำชับให้ทหารดูแลประชาชนอย่างดี ส่วนผู้ลี้ภัยที่ข้ามมายังประเทศไทยนั้น บางส่วนได้ขอกลับยังจุดที่ไม่มีการสู้รบแล้ว เนื่องจากเป็นห่วงบ้านเรือน และทรัพย์สินในฝั่งเมียนมา