น้ำรั่วซ้ำซาก! ฝนถล่มอาคารรัฐสภามูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้าน ล่าสุด "ผู้รับเหมา" แจ้งว่า สร้างเสร็จแล้ว 100% เพื่อเลี่ยงค่าปรับวันละ 12 ล้าน
วันที่ 2 ก.ค. 65 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 1 ก.ค. 65 ได้เกิดฝนตกหนักที่อาคารรัฐสภา ทำให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร Strong : องค์กรพอเพียงต้านทุจริต ได้ส่งภาพ และคลิปนิทรรศการ 90 ปีรัฐสภาที่จัดบริเวณพื้นไม้ชั้น 1 อาคารรัฐสภาล้มระเกะระกะ มีน้ำฝนไหลเจิ่งนองทั่วพื้นอาคารรัฐสภาที่มีมูลค่าการก่อสร้างถึง 12,280 ล้านบาท สะท้อนถึงความบกพร่องของการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ใช่หรือไม่ เนื่องจากเมื่อมีฝนตกก็จะเกิดน้ำรั่ว และน้ำท่วมทุกครั้ง ขณะที่ทั่วอาคารรัฐสภาจะมีน้ำรั่ว น้ำหยด น้ำซึมหลายสิบจุด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ เป็นภาระของแม่บ้านทำความสะอาดทั้งอาคารตึก สว. และ สส. ที่จะต้องมาทำความสะอาดทุกครั้ง พร้อมมีคำสั่งจากหัวหน้างานห้ามเปิดเผยเรื่องนี้ต่อบุคคลภายนอก
ส่วนพื้นไม้ที่น้ำฝนไหลมาท่วมนั้น ก็สร้างผิดสเปก ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาที่กำหนดว่า ต้องเป็นไม้ตะเคียนทอง แต่กรมป่าไม้นำไปตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นไม้พะยอม ซึ่งมีสภาพแบบนี้เป็นจำนวนมากทั่วอาคาร และใช้เวลาก่อสร้างนับ 3,351 วัน จากสัญญาก่อสร้าง 900 วันก็ยังสร้างไม่เสร็จ เช่น ประตูห้องกรรมาธิการไม่กันเสียง 65 ห้อง ผนังห้องประชุมกรรมาธิการไม่กันเสียง 148 ห้อง ต้นไม้ใหญ่ตาย 347 ต้น เป็นต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทผู้รับเหมาได้ทำหนังสือส่งงานเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 65 แจ้งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่าสร้างเสร็จแล้ว 100% เพื่อหลบเลี่ยงค่าปรับกว่าวันละ 12 ล้านบาท
ด้านนายวัชระ กล่าวว่า "ตนเองเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง พระสยามเทวาธิราชจึงดลบันดาลให้พายุฝนสาดซัดน้ำให้ไหลทะลักท่วมอาคารรัฐสภาบริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นพื้นไม้ที่มีการสร้างผิดสเปก ไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญา แล้วจะส่งมอบงานว่าสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้อย่างไร"