"จิตแพทย์" ระบุโจรกางเกงในไม่ใช่โรคจิต แต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ว่าสวมใส่ชุดนี้แล้วสร้างความมั่นใจในการก่อเหตุทุกครั้งจะไม่ถูกจับได้
วันที่ 6 ก.ค. 2565 จากกรณี คนร้ายเป็นชาย ชื่อ นายเจ๊ะอิส หรือ คาร์มัส อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส สวมกางเกงในตัวเดียว เข้ามาขโมยของในร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สาขานครนายก ได้ทรัพย์สินไปกว่า 128 รายการ ความเสียหายมูลค่ากว่า 1,914,895 บาท โดยคนร้ายเลือกที่จะขโมยโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อ แต่จะเหลือทิ้งไว้เฉพาะเครื่องที่สามารถล็อกซิมได้ แสดงถึงความเชี่ยวชาญเรื่องโทรศัพท์ ซึ่งต่อมาตำรวจตามแกะรอยจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ โดยตำรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด นายแพทย์ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เปิดเผยว่าสำหรับคนร้ายที่ใส่กางเกงในตัวเดียวก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นระบุว่าไม่พบอาการป่วยทางจิตหรือทางประสาทแต่อย่างใด แต่เป็นพฤติกรรมความเชื่อเฉพาะตัวและแปลกเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นวิธีการเดิมๆ ที่ใช้ก่อเหตุ เชื่อว่าการกระทำของคนร้ายที่ใส่กางเกงในตัวเดียวทุกครั้ง เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ว่าใส่ชุดนี้แล้วจะโชคดี ช่วยให้สำเร็จและไม่มีอุปสรรคทุกครั้ง เช่นเดียวกับที่คนเชื่อในเรื่องต่างๆ ว่าใช้สิ่งของอันนี้หรือใส่พระองค์นี้แล้วจะสามารถทำสิ่งที่ต้องการสำเร็จ
โดยผู้ต้องหาสามารถให้ปากคำและสื่อสารกับตำรวจได้รู้เรื่อง แต่หากอยากทราบว่ามีอาการป่วยทางจิตหรือไม่นั้น จะต้องให้ตำรวจหรือญาติทำเรื่องร้องขอให้ทางจิตแพทย์เป็นคนตรวจสอบอย่างละเอียดจึงจะสามารถระบุได้ว่า มีอาการป่วยหรือไม่
ส่วนที่ผู้ต้องหานำทรัพย์สินที่ขโมยมาแล้วไปแจกให้กับคนเร่ร่อนหรือคนอื่น เชื่อว่าเป็นการกระทำที่ต้องการลบล้างความผิด อาจจะคิดว่าตนเองทำผิดมาจึงอยากจะมีความคิดทำความดีบ้าง แต่เป็นความคิดในทางที่ผิด จึงอยากแนะนำเด็กหรือเยาวชนไม่ให้ทำตามเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะมีปมในตอนเด็กที่เห็นคนอื่นมีแล้วเราไม่มี ก็ควรที่จะคิดหาวิธีอย่างอื่น เช่น การตั้งเป้าหมาย ทำงานเก็บเงินเพื่อนำไปซื้อในสิ่งที่เราอยากได้และไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ดีที่สุด