"หมอยง"ชี้ ช่วงเปิดเทอม เด็กนักเรียนจะกลายเป็นแหล่งกระจายการระบาดโควิด-19 มากขึ้น
วันที่ 6 ก.ค.65 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยชี้ว่า "เด็กนักเรียนจะเป็นกลุ่มที่ขยายและกระจายการระบาดของโรคมากขึ้น"
โดย นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ก็เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ อาทิ โรคไข้หวัดใหญ่ ที่จะพบการระบาดของโรคสูงขึ้นในช่วงเปิดเทอมหรือฤดูฝน
ซึ่งโพสต์ของ นพ.ยง ระบุข้อความดังนี้
"โควิด 19 นักเรียนจะเป็นผู้ขยายและกระจายโรค การระบาดของโรคมากขึ้น
เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่นไข้หวัดใหญ่ การระบาดของโรคจะพบสูงมากในช่วงเปิดเทอมหรือฤดูฝน เด็กนักเรียนจะรับเชื้อและติดต่อกันง่าย มันเป็นเช่นนั้นทุกปีของโรคทางเดินหายใจ
โควิด 19 ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีการเปิดเทอม ทำให้การเพิ่มกระจายของโรคเพิ่มขึ้น
ความรุนแรงของโรคในเด็กนักเรียน และวัยรุ่น น้อยมาก แต่จะติดต่อกันเองและนำเชื้อกลับบ้านทำให้เกิดการติดต่อทั้งครอบครัว ซึ่งจะโยงไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ
อัตราการเสียชีวิตในเด็กนักเรียนที่แข็งแรงดีโดยเฉพาะที่อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 1 ในหมื่น การเสียชีวิตหรือรุนแรงในเด็ก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรังหรือกลุ่มเสี่ยง
ในเด็กกลุ่มที่จะเป็นอันตรายส่วนใหญ่จะอายุน้อยกว่า 2 ปี
การเรียนการศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่ง ชีวิตต้องเดินหน้า การไปโรงเรียนของเด็กมีความสำคัญต่อระบบการศึกษาของประเทศ และยังช่วยเรื่องโภชนาการของเด็กต่างจังหวัด มาตรการในการป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อ มีความสำคัญยิ่ง ในโรงเรียน เช่นสุขอนามัย การล้างมืออยู่เป็นนิจและถูกวิธี ลดการรับประทานอาหารร่วมกัน ใส่หน้ากากอนามัย การกำหนดระยะห่างในช่วงที่มีการระบาดมาก
ประเทศสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน แทบจะไม่มีการปิดเรียนเลย ใครป่วยก็ควรอยู่บ้าน เมื่อหายดีก็กลับมาเรียน ทุกคนเคร่งครัดระเบียบวินัย
ทุกคนต้องยอมรับความจริง และสนับสนุนการศึกษาให้ได้เดินหน้าต่อไป ร่วมใจกันปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด และไม่ควรปิดโรงเรียนโดยไม่จำเป็น ควรมุ่งเน้นมาตรการ ป้องกันโรคในโรงเรียนมากกว่า"