"นายกฯ" ชิมกล้วยไข่ชาวสวนกำแพงเพชร บอกอร่อยมาก ชอบกินอยู่แล้ว ย้ำส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ ยืนยันจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม

วันที่ 7 ก.ค. 2565 หลังกราบนมัสการพระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะภาค 4 เจ้าอาวาสวัดคูยาง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมการบริหารงานกล้วยไข่แปลงใหญ่ ที่บ้านท้องคุ้ง อำเภอคลองขลุง พร้อมชิมกล้วยไข่ของชาวสวน และกล่าวชื่นชมการแก้ปัญหาของเกษตรกรจนประสบความสำเร็จ เพราะได้เห็นทุกคนใช้แนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการทำการเกษตร พร้อมดีใจที่ทุกคนได้ขึ้นทะเบียน เกษตรปลอดภัย จึงขอบคุณที่เกษตรกรทำตามแนวทางรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลก็จะส่งเสริมการตลาดการปลูกกล้วยไข่ พร้อมส่งเสริมเกษตรผสมผสาน เสริมผลผลิตอีกทาง และย้ำว่านายกฯ ทำงานอย่างเต็มที่ในการนำเข้าปุ๋ย หลังราคาปรับสูงขึ้น ซึ่งตนเองก็เจ็บปวด เมื่อเห็นความเดือดร้อนประชาชน และที่อยู่วันนี้อยู่เพื่อทุกคน หากปรับตัวก็เดินหน้าได้หมด โดยอยู่มา 8 ปีมีความคืบหน้าหลายด้าน ขณะเดียวกันรัฐบาลเตรียมการส่งเสริมโครงการน้ำขนาดใหญ่เพื่ออุปโภคบริโภค

นายกรัฐมนตรี ยังแนะการนำเทคโนโลยีมาใช้เหมือนต่างประเทศ โดยเน้นไปที่การรวมกลุ่ม โดยนายกฯ จะดูแลให้ดีที่สุดให้เกษตรกรหน้าขาว ไม่หน้าดำ ยืนยันรักทุกคน รักทุกกลุ่ม รักประเทศไทย แบ่งแยกไม่ได้ และกล่าวว่า ขณะนี้มีการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ประเทศมีรายได้ และก็จะนำรายได้ มาช่วยเหลือทุกคน

ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอทุกคนป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และต้องอยู่กับโรคโควิดให้ได้ โดยอยู่อย่างป้องกัน และรักษาตัวเอง ยอมรับว่าใช้เงินกู้แก้ปัญหาไปอย่างมหาศาล เพื่อดูแลทุกกลุ่มให้อยู่รอดปลอดภัยจากโควิด และสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อนำทุกคนไปสู่การอยู่อย่างยั่งยืนพร้อมแนะเกษตรกร สอนลูกหลานให้อดทน ซึ่งตนเองอดทนมาแต่เด็ก ตอนเด็กไม่ได้สบาย ก่อนจะหยิบสร้อยคอของชาวบ้านมาแซวว่า ชาวบ้านขายกล้วยไข่ใส่ทองเส้นใหญ่ พร้อมถามว่าพระที่ห้อยคอคืออะไร ซึ่งชาวบ้านหัวเราะตอบว่าของปลอม นายกฯ ก็แซวอีกว่า ถ้าเส้นใหญ่กว่านี้ของปลอมระวังถูกตีหัว ก่อนจะสวมกอดชาวบ้านและหัวเราะอย่างชื่นมื่น

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับเจ้าของสวนกล้วยไข่ และสอบถามวิธีการปลูกกล้วย พร้อมระบุว่าที่หลายคนบอกว่าบางอย่างเป็นเรื่องกล้วย ๆ เป็นเรื่องง่าย ๆ แท้จริงแล้วไม่ใช่ เพราะการปลูกกล้วยไม่ใช่เรื่องง่าย นายกรัฐมนตรีได้ปลูกต้นกล้วยไข่และรดน้ำต้นไม้โดยบอกว่าให้โตเร็วๆ ก่อนให้ใบกล้วยกับแพะเป็นอาหาร ชมว่าแพะน่ารักและลูบหัวอย่างเอ็นดู พร้อมถามเกษตรกรถึงการเลี้ยงแพะ

และเยี่ยมชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยไข่ อาทิ แป้งกล้วยไข่ ข้าวเกรียบ น้ำพริกกล้วยไข่ เส้นหมี่และแผ่นเกี๊ยวจากแป้งกล้วยไข่ ก่อนที่นายกฯ จะได้รับมอบกระเป๋าผ้าที่เขียนว่า ”กำแพงเพชร” โดยชาวบ้าน บอกว่า “ขอให้ปกป้องคุ้มครองนายกฯ” ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “กำแพงต้องปกป้องคุ้มครอง กำแพงต้องแข็งแรง ไม่ผุพัง ต้องเสริมไปเรื่อยๆ ปกป้องคุ้มครองประเทศชาติประชาชนคนไทยทุกคน นั่นคือเจตนารมย์ของพวกเรา” จากนั้น นายกฯ ได้รับมอบของที่ระลึก เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วยไข่ และได้รับมอบรูปพระครูวิบูลวชิรธรรม (สว่าง อุตตโร) วัดคฤหบดีสงฆ์

ทั้งนี้ ระหว่างทางที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ ต.วังบัว อ.คลองขลุง เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการขจัดความยากจน และพัฒนาทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และมอบบ้านผู้ยากไร้ นายกรัฐมนตรี ได้หยุดขบวนรถและลงไปทักทายกับประชาชนที่มายืนให้กำลังใจ และถ่ายภาพร่วมกัน