ที่ประชุมวุฒิสภา ผ่านกฎหมายฉีดไข่ฝ่อ ป้องกันการกระทำผิดทางเพศซ้ำซาก เตรียมส่งต่อให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการต่อไป
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สว. ประธาน กมธ. ในวาระ 2 - 3
สำหรับร่าง พรบ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. … มีจำนวน 43 มาตรา กมธ.ฯ แก้ไข 12 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ คือ การเพิ่มมาตรการติดตามผู้กระทำความผิดทางอาญาเกี่ยวกับเพศหรือการใช้ความรุนแรง เช่น การฆาตกรรม การข่มขืนกระทำชำเรา ความผิดทางเพศเกี่ยวกับเด็ก การทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยกำหนดให้มีทั้งมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด มาตรการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และมาตรการคุมขังฉุกเฉิน ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำที่อาจเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีกลุ่มผู้กระทำผิดที่ถูกจำคุกและพ้นกำหนดโทษ โดยได้รับการปล่อยตัวสู่สังคมแล้ว แต่มีผู้กระทำความผิดส่วนหนึ่งที่มีแนวโน้มทำผิดซ้ำในรูปแบบเดิมอีก จึงต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ
โดยมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดจะมี มาตรา 21 ที่แพทย์สามารถให้ยากดฮอร์โมนเพศชาย (ฉีดให้ฝ่อ) แก่ผู้กระทำผิด หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช และอายุรศาสตร์อย่างน้อย 2 คน พิจารณาหากเห็นพ้องกันและได้รับความยินยอมจากผู้กระทำผิด ซึ่งผลการใช้มาตรการทางการแพทย์ดังกล่าว สามารถใช้เป็นเงื่อนไขพิจารณาลดโทษ พักการลงโทษ หรือให้ผู้กระทำผิดได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดได้
ที่ประชุม สว.มีการอภิปรายร่าง พรบ.ดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะ มาตรา 21 เรื่องมาตรการทางการแพทย์ที่เปิดช่องให้มีการฉีดยาลดฮอร์โมนเพศ แก่ผู้กระทำผิด สว.ให้ความสนใจอภิปรายหลายคน ส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการ แต่สงสัยหลายประเด็นว่าสามารถปฏิบัติได้จริงหรือไม่ เช่น ผู้กระทำผิดจะยินยอมให้ฉีดหรือไม่ ขณะที่มาตรการดังกล่าวไม่มีกฎหมายรองรับ อาจต้องให้แพทยสภาออกหลักการไว้ก่อน
จากนั้นเวลา 17.10 น. ที่ประชุมได้ลงมติวาระ 3 เห็นชอบด้วยคะแนน 145 ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 2 เสียง จากนั้นส่งให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป