ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เชิญชวนซูเปอร์ฮีโร่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รวมพลังบริจาคโลหิตช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศที่จำเป็นต้องได้รับโลหิตในการรักษาจำนวนมาก รับ "เหรียญบรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจจ์" ตลอดเดือนกรกฎาคม 2565 เสริมมงคลชีวิตให้สุขภาพดี
รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างมาก โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศขาดแคลนโลหิตสะสมยาวนานกว่า 6 เดือน โดยในภาวะปกติจะต้องมีโลหิตบริจาครักษาผู้ป่วยเดือนละ 200,000 ยูนิต แต่ปัจจุบันได้รับโลหิตทั้งประเทศเพียง 150,000 - 160,000 ยูนิต ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่รอรับการผ่าตัด นอกจากนี้ โลหิตยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้กับผู้ป่วยที่มีภาวะสูญเสียโลหิตเฉียบพลัน และผู้ป่วยโรคเลือดที่ต้องใช้โลหิตเป็นประจำ จึงเป็นที่มาของโครงการ Blood Hero ปี 3 เพื่อให้มีการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ มีผู้บริจาคโลหิตรายใหม่เพิ่มมากขึ้น ให้มีปริมาณโลหิตคงคลังที่เพียงพอ
ผู้บริจาคโลหิตตลอดเดือนกรกฎาคม 2565 ทั่วประเทศ รับ "เหรียญบรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจจ์" ที่ผ่านพิธีมังคลาภิเษก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ และ ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรีและประธานคณะกรรมการอำนวยการกลุ่มบริการโลหิต อวัยวะ และผลิตภัณฑ์ชีววัตถุ ประธานฝ่ายฆราวาส
ความเชื่อและความศรัทธาต่อ “บรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจจ์”
• บรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจจ์ นับเป็นบุคคลสำคัญครั้งพุทธกาล เป็นหมอหลวงประจำราชสำนักของพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งแคว้นมคธ และเป็นหมอประจำพระพุทธองค์ มีบทบาทถวายคำแนะนำให้พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยและระเบียบปฏิบัติหลายข้อ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงเทศนาเรื่องความสามารถของท่าน 4 ประการ คือ ฉลาดในโรค ฉลาดในการรักษาโรค ฉลาดในการกำจัดโรคที่เกิดขึ้นแล้ว และฉลาดในการสังเกตอาการของโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว เปรียบเทียบกับหลักอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
• เป็นที่รักใคร่ เป็นคนดี มั่นคงในศีลธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต สร้างบรรทัดฐานวิธีการรักษา และส่วนประกอบตำรายา ขึ้นเป็นแบบแผนไว้มากมาย
• เป็นพระบิดาแห่งการแพทย์และเภสัชกรรมที่ยิ่งใหญ่ เทียบเท่าบุคคลสำคัญที่วงการแพทย์ทั่วโลกนับถือ เป็นที่เคารพของประชาชนทั่วไปตราบจนทุกวันนี้