“บีม กวี” ยอมงดรับงานเพื่อครอบครัว หลังภรรยาเกิดอาการเบบี้บลู ลั่นชดเชยท้องเเรกที่ดูเเลไม่พอ

 

สรุปเเพลนจัดคอนเสิร์ต D2B ยังจะมีอยู่ไหม?
-คือจริงๆ แล้วปลายปีก็เป็นช่วงที่ เราทั้ง2 ก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่อะไรแบบนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ว่าปีนี้ก็ขออนุญาตกับทางอาร์เอสเอาไว้เเล้วว่า เดี๋ยวภรรยาผมจะคลอดช่วงนั้นพอดี

เป็นห่วงภรรยาใช่ไหม เพราะกลัวอาการหลังคลอด?
-ผู้หญิงท้องจะมีช่วงเบบี้บลู ซึ่งฮอร์โมนมันเปลี่ยน แล้วผมเคยรับคอนเสิร์ตงานหนึ่งแล้วตอนนั้น ซึ่งเขาคลอดพอดี เราก็ต้องเผชิญกับอะไรที่แบบว่ามันเป็นครั้งแรก และเราไม่รู้และเราไม่ได้อยู่กับเขาเลย ครั้งนี้เราก็เลยเป็นห่วงและบอกกับทางอาร์เอสไปว่าปลายปีนี้อาจขอเว้นวรรคไว้ก่อน เพราะว่าอยากจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นก็เลยขอเลื่อนไปก่อนครับ

เป็นเพราะเหตุการณ์อะไรในตอนนั้น?
-คือตอนนั้นจำภาพตอนที่ออยเขาแบบร้องไห้มาที่ไหล่เราได้ เขาก็บอกว่าเราแค่อยากเห็นหน้าเธอเราก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว ด้วยคำพูดตอนนั้นเราก็รู้สึกผิดมากเลยเพราะเวลาเราเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ๆ มันต้องซ้อมทุกวัน ผมต้องออกจากบ้านไปตั้งแต่ 8 โมงเช้า บางทีเขายังไม่ตื่นเลยด้วย พอกลับบ้านมาบางทีก็ดึกมากเขาก็เข้านอนแล้ว ตอนนั้นมันก็เลยเป็นความรู้สึกผิดที่ว่าเราไม่ได้อยู่กับเขาในช่วงหนึ่งเดือนแรกที่ลูกกำลังอ่อนๆ แล้วเขาก็ต้องเผชิญกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป เหตุการณ์นั้นมันก็เลยติดใจเรานิดนึง ครั้งนี้ก็เลยบอกกับเขาไปว่าในช่วงระหว่างที่ท้องจนคลอดเดี๋ยวเราจะอยู่กับเธอหลังจากนั้นอีก 3 เดือน ไม่ว่าจะเป็นงานละครอะไรที่มันยาวๆ ที่เราจะต้องไปทั้งวันก็จะไม่ได้รับเลย เพราะรู้สึกว่าอยากใช้เวลาตรงนี้เพื่อที่จะชดเชยในสิ่งที่เราเคยทำในครั้งนั้น

ทางด้านภรรยารู้ไหมว่าเราแคนเซิลงานเพื่อเขา?
- ไม่ได้บอกขนาดนั้น แต่ก็บอกว่าเราตัดสินใจว่าเราไม่รับนะ คือตอนที่ทางอาร์เอสถามว่าจะมีคอนเสิร์ตไหม ใจเราก็อยากเล่นนะแต่ว่าเราก็คิดถึงภาพเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วว่ามันเป็นยังไง ผมก็นอนคิดอยู่คืนหนึ่ง รุ่งเช้าก็ไปบอกกับไปว่าผมไม่เล่นดีกว่า

เราตัดสินใจเองเลย ได้ถามทาง “แดน” ก่อนไหม?
-อันนี้ไม่ได้ถามแดนเลย ก็ตัดสินใจไปเลย เพราะรู้สึกว่าอันนี้มันอาจจะเป็นเรื่องที่เราจะต้องทำเพื่อครอบครัวเรา

คิดว่าจะกลับมารับงานได้อีกเมื่อไหร่?
-ต้นปีหน้าประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็น่าจะได้แล้วครับ

ช่วงที่ภรรยามีอาการเบบี้บลู เราต้องทำยังไง?
-เขาก็จะมีช่วงที่อ่อนแอประมาณว่าแบบแพ้ท้อง แล้วก็จะมีช่วงที่ฮอร์โมนเขาเปลี่ยน ผมก็อยู่ด้วยตลอดด้วยความที่เราก็เป็นห่วงเขา โชคดีที่ว่าช่วงนี้มีงานที่ได้ทำด้วยกันด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากเลย เพราะว่าตอนที่เขาเป็นครั้งแรกผมงงมาก เพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ สำหรับผมเขาเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก มีโฟกัส หรือแม้แต่เรื่องที่เขาเป็นเบบี้บลู เขาก็คิดและรู้แล้วว่าอาการฮอร์โมนเปลี่ยนมันเป็นยังไง เขาจะดีลกับตัวเองได้ไม่ต้องกลัว เขาก็เลยบอกให้ผมไปทำงานได้เลยในช่วงนั้นที่ผมต้องเล่นคอนเสิร์ต แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เลยรู้ว่าจริงๆ แล้วมันไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าตอนที่ฮอร์โมนเปลี่ยนความรู้สึกมันเป็นยังไง คนที่อยู่ข้างๆ คือต้องอยู่ใกล้ๆ จะบอกว่าให้กำลังใจบางทีมันก็ส่งไปไม่ถึงเหมือนกันนะ ง่ายๆ คือต้องอยู่กับเขา กุมมือเขาไว้มากกว่า

คือสปอยภรรยาเยอะเลย เพราะอะไร?
-ผมก็อยากให้เขาชอปปิง แต่เวลาจะใช้เงินเขาก็เป็นคนที่คิดเยอะ แล้วครอบครัวเราก็อยากจะเซฟทุกอย่างเพื่อลูก (หัวเราะ) ตอนนี้ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันคูณสี่อยู่แล้ว ฉะนั้นช่วงนี้เขาอยากกินอะไรหรืออยากได้ของอะไรผมก็สปอยหมดเลย เพราะผมคิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันเป็นการเสียสละมากๆ จนไม่รู้ว่าเราจะช่วยยังไงเลยตามใจไปเลยครับ