สาวนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารดังเมืองชลฯ เสียท่ามิจฉาชีพอ้างสนิทพิมรี่พาย หลอกร่วมลงทุน ตุ๋นเงินสูญ 20 ล้าน
วันที่ 16 ก.ค.65 น.ส.ภูรินทรา อายุ 44 ปี เจ้าของร้านโรงเหล้าอมตะและสถานบันเทิงหลายแห่งใน จ.ชลบุรี ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนเพื่อเตือนภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพ และขอให้พนักงานสอบสวน สภ.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เร่งติดตามผลคดีที่ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เนื่องจากต้องสูญเงินให้มิจฉาชีพ เป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท ผ่านมานานหลายเดือนไม่มีความคืบหน้า
คดีนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.ภูรินทรา ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญากับนายพงศธร หรือนายเอ็ม อายุ 33 ปี ในข้อหาฉ้อโกงและอีกหลายข้อหา โดยนายเอ็ม มีพฤติกรรมหลอกลวง อ้างว่าสนิทสนมกับ พิมรี่พาย เน็ตไอดอลชื่อดัง และเคยส่งขนมบราวนี่และร่วมทำธุรกิจกับพิมรี่พาย อีกทั้งยังมีการทำเฟซบุ๊กมาหลอกว่า มีการติดต่อกับพิมรี่พายด้วย ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และหวังว่าจะได้มีการประกอบธุรกิจร่วมกัน
น.ส.ภูรินทรา กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวว่าขนมบราวนี่เกิดขึ้นรา เนื่องจากแหล่งผลิตไม่ได้คุณภาพ นายพงศธร ได้ติดต่อมาให้ช่วยหา แหล่งผลิตใหม่ จึงได้จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งให้มีการผลิตขนมบราวนี่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อส่งไปขายให้กับพิมรี่พาย ซึ่งตนเองก็หลงเชื่อ
ต่อมานายพงศธร เห็นตนเองทำน้ำพริกหลวงพระบาง ที่มีชื่อเสียงในประเทศลาว ก็มาอ้างว่า พิมรี่พายได้ชิมแล้วชอบ ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าดัง ๆ ส่งเดือนละ 2-3 แสนกระปุก พร้อมทั้งได้มีการปลอมแปลงใบสั่งซื้อมาให้ด้วย ทำให้เชื่อ และยังใช้เฟซบุ๊กรูปพิมรี่พาย ทักมาอีก อ้างว่าเป็นคุณออย พี่สาวของพิมรี่พาย เป็นผู้ประสานงาน แต่จริงๆ เป็นแค่พนักงานของพิมรี่พาย ทำให้ตนต้องควักเงินไปกว้านซื้อ กะปิ น้ำปลา และเครื่องเคียงประกอบการทำน้ำพริกหมดไป 7-8 แสนบาท เพื่อเตรียมการทำน้ำพริกหลวงพระบางส่งให้พิมรี่พาย เพราะหากพิมรี่พายสั่งแล้วจะต้องได้ทันที แต่ก็ไม่ได้ทำการค้าขายกันจริง ทำให้ต้องขนเครื่องเคียงการทำน้ำพริกทิ้งไปหมด ทำให้สูญเงินจำนวนดังกล่าวไป
จากนั้นเกิดการยืมเงินขึ้น อ้างว่า พิมรี่พาย ต้องการความช่วยเหลือ เพราะ สรรพากรตรวจสอบทำให้ไม่สามารถใช้เงินในบัญชีได้ ด้วยความเป็นแฟนคลับพิมรี่พาย เลยโอนเงินให้ไปครั้งละ 1-2 ล้านบาท โอนไปประมาณ 40 ครั้ง หากรวมทั้งเงินสดและทรัพย์สินโอนไปให้ประมาณ 20 ล้านบาท
"การที่เสียเงินจำนวน 20 ล้านบาท เนื่องจากมีการพิมพ์ข้อความของพิมรี่พาย ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กปลอม โดยนายเอ็มเอามาให้ดู พร้อมทั้งบอกว่าพิมรี่พาย ขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่าสรรพากรตรวจสอบ ทำให้ไม่สามารถใช้เงินในบัญชีได้ ประกอบกับเราเป็นเอฟซีของพิมรี่พายอยู่แล้ว รวมทั้งถูกหลอกว่าพิมรี่พายชอบน้ำพริกหลวงพระบางด้วย ทำให้ดีใจที่ได้ร่วมธุรกิจ และอยากช่วยเหลือ จึงได้โอนเงินให้ครั้งละ 1-2 ล้านบาท โอนไปประมาณ 40 ครั้ง เพื่อช่วยเหลือพิมรี่พาย หากรวมทั้งเงินสดและทรัพย์สินโอนไปให้ประมาณ 20 ล้านบาท ต่อมาเพิ่งมารู้ว่านายเอ็มหลอกทั้งหมด" น.ส.ภูรินทรากล่าว และเผยว่า คนชื่อ ออย ได้ออกจากการเป็นพนักงานของพิมรี่พายแล้ว
น.ส.ภูรินทรา กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ดอนหัวฬ่อ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 นายพงศธร หรือ เอ็ม ก็ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ดอนหัวฬ่อ ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี แต่ไม่มีเงินประกับตัว ตำรวจจึงได้ส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางชลบุรี
ส่วนที่มาร้องเรียนสื่อมวลชน เพราะการดำเนินคดีล่าช้า ยังไม่มีการยึดทรัพย์ของผู้ต้องหา เกรงว่าเงินที่เสียไปประมาณ 20 ล้านบาทจะไม่ได้คืน นอกจากนี้ยังได้มีการว่าจ้างทนายความเสียเงินไปอีกจำนวนมาก ก็อ้างแต่ว่าต้องรอการดำเนินการของตำรวจ จึงมาร้องเรียนเพื่อให้มีการเร่งรัดคดีดังกล่าว