"นายกฯ" กำชับ สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือหลัง WHO ประกาศโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ย้ำประชาชนปฏิบัติตนตามมาตรการ Universal Prevention ต่อเนื่อง ช่วยป้องกันทั้งโควิด-19 และโรคฝีดาษลิง

 

วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์ในประเทศยังปลอดภัย ไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเพิ่มเติม หลังพบชาวไนจีเรียที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย ยืนยันป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงคนแรกหลบหนีออกนอกประเทศ ด้วยความห่วงใย นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำให้กระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมทุกด้านและแนวทางรองรับโรคฝีดาษลิง หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern :PHEIC) ตลอดจนกำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระมัดระวังผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศระดับการเฝ้าระวัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ระบบสาธารณสุขไทยสามารถดูแล และป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และโรคฝีดาษลิง

ย้ำให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention อย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แล้วยังจะสามารถทำให้ป้องกันโรคฝีดาษวารได้อีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 1,740 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศทั้งหมด รวมผู้ป่วยสะสม 2,354,158 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ขณะที่หายป่วยกลับบ้าน 2,425 ราย รวมหายป่วยสะสม 2,353,925 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) โดยมีผู้ป่วยกำลังรักษา 23,985 ราย และเสียชีวิต 32 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 890 ราย ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2564 - 23 ก.ค. 2565 รวมทั้งสิ้น 141,182,721 โด จำแนกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 57,101,910 ราย คิดเป็น 82.1% ของประชากร ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 53,433,998 ราย คิดเป็น 76.8% ของประชากร และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ขึ้นไป สะสม 30,646,813 ราย คิดเป็น 44.1% ของประชากร