มิจฉาชีพมาอีกรูปแบบ ขับเก๋งมาจอดในปั๊มน้ำมัน วนหาเหยื่อเป็นนักเรียน ทำทีขอยืมโทรศัพท์โทรหาภรรยา ก่อนขอยืมเงิน พบมีเหยื่อหลายราย
วันที่ 28 ก.ค. 65 น.ส.น้ำ(นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เมืองบุรีรัมย์ ว่าถูกชายอายุประมาณ 30-35 ปี หลอกยืมเงินกึ่งบังคับ และอ้อนวอน ไปจำนวน 400 บาท พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายทะเบียนรถผู้ก่อเหตุ และชื่อของผู้ก่อเหตุที่รับโอนเงิน
น.ส.น้ำ เล่าว่า ตนจะกลับบ้านหลังเลิกเรียน ได้แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน ตรงข้ามวิทยาลัยเกษตรกรรมและเทคโนโลยี ระหว่างที่เดินออกมาถึงบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ มีชายรูปร่างโปร่งสูง เข้ามาทำหน้าเศร้าบอกว่า "น้องขอยืมโทรศัพท์หน่อย เพราะภรรยาพี่ขับรถฟอร์จูนเนอร์หนีพี่ไปกับลูก พี่ขับรถตามไม่ทัน" ด้วยความสงสารจึงให้ยืมโทรศัพท์ โทรไปหาภรรยาตามที่เขากล่าวอ้าง ปรากฏว่าโทรไปทั้งหมด 3 เบอร์ไม่มีคนรับ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้หันมาคุยว่าจะเอาอย่างไงดี รถพี่น้ำมันหมดจะไปตามง้อเมียที่ จ.มหาสารคาม แล้วพาไปดูที่รถที่จอดกลางปั๊มเพื่อยืนยันน้ำมันหมด จากนั้นได้เริ่มขอยืมเงินเติมน้ำมันหลักพันบาท แต่ตนบอกว่าไม่มีเงิน เพราะจะเอาไปเสียค่าเทอม ชายคนนั้นได้ยกมือไหว้ขอให้ช่วย แต่ตนก็ไม่ยอมเพราะเกรงจะถูกหลอก
ชายคนนั้นจึง บอกว่า ถ้ากลัวโกงจะแลกไลน์กัน ถ้าเจอภรรยาพี่จะโอนกลับทันที พร้อมกับให้ส่งเลขที่บัญชีมาไว้รอ เพื่อจะโอนกลับ ด้วยความสงสารว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง จึงเจียดเอาเงินค่าอาหาร ให้ไปจำนวน 400 บาท หลังจากโอนเงินให้ เขาก็ไปกดเงินที่ตู้ ATM แล้วหันมาบอกว่า ถ้าพี่ตามภรรยากับลูกพี่กลับมาจะพาไปเลี้ยงชาบู พร้อมกับเพื่อนของน้องทุกคน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทักไลน์ไปไม่ยอมตอบ โทรศัพท์ไปไม่ยอมรับ จึงคิดว่าถูกหลอก จึงเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ติดตามชายคนนี้มาเจรจาขอเงินคืน ตอนนี้ได้ถ่ายภาพรถเห็นทะเบียน กน-9741 บุรีรัมย์ ชื่อบัญชีพร้อมเพย์ที่โอนไปคือ นายธรรมศักดิ์ ยุคตะวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจาก น.ส.น้ำ คนที่ถูกหลอกแล้ว ยังมีนักเรียนวิทยาลัยเกษตรฯ และโรงเรียนอื่นอีกหลายคนถูกหลอกเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเสียเงินคนละ 500 บาท โดยผู้ก่อเหตุจะปักหลักมานั่งรอเหยื่อ ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยงวัน ที่ปั๊มน้ำมันหน้าวิทยาลัยเกษตรฯ และปั๊มน้ำมันข้างสนามฟุตบอลช้างอารีน่า ทุกวัน