"วิลล์ สมิธ" อัดคลิปขอโทษ "คริส ร็อก" และครอบครัว ปมตบหน้าบนเวทีออสการ์ เผยพร้อมคุยเสมอ หากอีกฝ่ายพร้อม ทั้งนี้เขาตระหนักได้ว่าการกระทำของตัวเอง ทำให้อีกหลายคนต้องเจ็บปวด ย้ำ "เจดา" ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาตัดสินใจลงมือเองทั้งหมด
วันที่ 30 ก.ค. 65 เป็นเวลากว่า 4 เดือน หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ "วิลล์ สมิธ" นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง วัย 53 ปี ตบหน้า “คริส ร็อก” พิธีกรและตลกรุ่นพี่ วัย 57 ปี บนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่ คริส ร็อก ล้อเลียนภรรยาที่มีภาวะผมร่วง จนต้องออกงานกับทรงผมแนวสกินเฮด
ทั้งนี้ล่าสุด "วิลล์ สมิธ" อัดคลิปความยาว 5.45 นาที ลงโซเชียลมีเดียเพื่อตอบคำถามแฟน ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอโทษ "คริส ร็อก" โดยตรงอีกครั้ง หลังจากเคยติดต่อขอเคลียร์ใจแล้ว แต่ด้าน คริส ร็อก ยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกัน ด้าน "วิลล์ สมิธ" กล่าวว่า “คริส ผมต้องขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น พฤติกรรมของผมเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับได้และผมยืนยันว่าจะอยู่ตรงนี้เสมอ หากคุณต้องการจะคุยกัน”
พร้อมกันนี้ วิลล์ ยังเผยถึงความรู้สึกของตนเองว่า เวลานี้ไม่มีสักนิดเลยที่เขามองว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นคือความถูกต้อง เขารู้ว่าคำว่า "เสียใจ" นั้นไม่เพียงพอ แต่ก็อยากจะบอกว่าเสียใจและสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไปอย่างสุดซึ้ง อีกทั้งต้องขอโทษครอบครัวของ "คริส ร็อก" โดยเฉพาะคุณแม่ของตลกคนดังที่ให้สัมภาษณ์ว่าวินาทีที่เธอเห็นลูกชายถูก "วิลล์ สมิธ" ตบหน้านั้น เหมือนทั้งตัวของเธอและทุกคนในครอบครัวถูกตบไปด้วย จากบทสัมภาษณ์นั้นทำให้วิลล์ตระหนักเลยว่ามีกี่คนที่เจ็บปวดไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน "วิลล์ สมิธ" ได้ขอโทษสมาชิกครอบครัวตนเอง รวมถึงผู้ร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์ปีนี้ที่ถูกพฤติกรรมของเขาทำให้เสียบรรยากาศและช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง พร้อมกับย้ำว่า "เจดา พิงคิตต์ สมิธ" ภรรยา ไม่มีส่วนในการกระทำการดังกล่าวของเขา พร้อมย้ำว่าทุกอย่างเป็นการตัดสินใจลงมือทำของเขาคนเดียวทั้งหมด
ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง "วิลล์ สมิธ" ถูกสถาบันผู้จัดงานออสการ์ประกาศห้ามให้เขาเข้าร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์และอีเวนต์อื่น ๆ ของสถาบันเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งตัววิลล์เองได้ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกของสถาบันนี้ตั้งแต่ก่อนจะทราบผลการตัดสินโทษแล้ว
ขอบคุณภาพจาก: ยูทูบ วิลล์ สมิธ