ตำรวจอ่างทองตามรวบยกแก๊งเงินกู้โหดหยอดกาวขังแม่พร้อมลูกสาววัย 4 ขวบนาน 4 วัน รับสารภาพทุกข้อกล่าวหาเว้นคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว เตรียมขยายผลหานายทุน

กรณีนางอร(นามสมมติ) อายุ 39 ปี ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบใช้กาวตราช้างหยอดกุญแจประตูขังไว้ในบ้านนานกว่า 4 วันจนต้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนเนื่องจากถูกข่มขู่จากแก๊งเงินกู้ดังกล่าวหลังเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม ก็มีชายฉกรรจ์มาที่ร้านตามภาพวงจรปิด โดยมีรถปิคอัพอีซูซุสีดำ ซึ่งมีชายฉกรรจ์ในรถหลายคนขับมาจอดบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งที่เปิดเป็นร้านค้าริมถนน ก่อนที่หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่นั่งอยู่ในรถจะลงมาพร้อมเข้าไปบริเวณด้านหน้าบ้านและใช้กาวตาช้างหยอดที่กุญแจประตูเหล็ก ทำให้ไม่สามารถไขประตูได้ ผ่านอีก 1 วันมีกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งน่าจะเป็นแก๊งเดียวกันขับรถเก๋งฮอนด้า สีขาวเข้ามาและชายฉกรรจ์อีก 3 คนลงมาที่บริเวณด้านหน้าร้าน ก่อนที่จะยกลังโซดาและเครื่องดื่มที่อยู่หน้าบ้านขึ้นรถไปอย่างหน้าตาเฉยพร้อม ทั้งใช้สีสเปรย์สีดำพ่นที่บริเวณประตูและพื้นปูนด้านหน้า มีข้อความว่า “หลบได้หลบไป อีขี้โกง” ก่อนที่จะขับรถออกไป และมีสื่อมวชนเข้าไปช่วยเหลือเมื่อช่วงเช้าวานที่ผ่านนมาและพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางจัก จ.อ่างทอง เมื่อช่วงเย็นวานนี้

ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมตัว นายวัชรินทร์หรือบูม แช่มอุบล อายุ 22 ปี นายธนกรหรือโอม ป้อมภูเขียว อายุ 22 ปี นายขรรค์ชัยหรือเอ็ม รสชุ่ม อายุ 26 ปี พร้อมยึดรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ที่ใช้ในการก่อเหตุและจับกุมนายวิโรจน์ เพ็งภู่ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นคนที่ขับรถปิคอัพอีซุซุสีดำ ซึ่งรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงได้ทำการแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยแจ้งข้อกล่าวหาปล่อยเงินกู้เกินกว่าอัตราที่กฏหมายกำหนด ผิด พรบ.เงินกู้ ลักทรัพย์ ดูหมิ่น ในส่วนของข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป โดยหลังจากสอบสวนเสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำทั้งหมดไปขออำนาจศาลจังหวัดอ่างทองเพื่อฝากขังทันทีเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ เป็นนโยบายสำคัญของผู้บังคับบัญชา ตำรวจภูธรภาค1 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อาจก่อเหตุร้ายอันตรายประการอื่น หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าจะไปข่มขู่ผู้เสียหายอีก โดยยืนยันจะทำดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาและให้ความยุติธรรมกับผู้เสียหายอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.อ่างทองได้สั่งการให้สืบสวนสอบสวนขยายผลถึงกลุ่มนายทุน แหล่งเงินทุนที่อยู่เบื้องหลัง ตรวจสอบพฤติการณ์และประชาสัมพันธ์หากมีผู้เสียหายรายอื่นให้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์และประสานการดำเนินคดีต่อไป