"มงคลกิตติ์" ล่าชื่อ สส. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ฟัน 8 ปี "นายกฯ" ชี้รัฐธรรมนูญฉบับ "มีชัย" ระบุชัด ให้นับรวมเวลาดำรงตำแหน่งก่อนประกาศใช้
วันที่ 10 ส.ค. 2565 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึง การตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ร่างหนังสือในการยื่นตีความผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภา และลงชื่อไปแล้ว เหลือผู้ร่วมลงชื่ออีก 47 รายชื่อ โดยได้ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านเป็นที่เรียบร้อยว่าจะช่วยกันลงชื่อ เพื่อยื่นต่อประธานรัฐสภาให้ตรวจสอบ และจึงยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ตามมาตรา 158 และมาตรา 264/1 เขียนเพิ่มเติมก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้นับรวมระยะเวลาก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ โดยต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 8 ปี หมายความว่าหลังพ้นเที่ยงคืนของวันที่ 23 สิงหาคม พลเอกประยุทธ์ จะไม่สามารถเซ็นเอกสารอะไรได้ เพราะถือเป็นการกระทำผิดทางกฎหมาย และต้องดำรงตำแหน่งรักษาการ รวมถึงคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ
นายมงคลกิตติ์ ยังเสนอด้วยว่า หากพลเอกประยุทธ์ อยากเป็นนายกฯ ตลอดไป ให้สั่ง สว. เสนอแก้รัฐธรรมนูญใหม่ ให้พลเอกประยุทธ์ ตลอดไป
"วันที่ 24 ส.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็จะเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง ดังนั้นต้องดำเนินการไปตามกระบวนการสรรหานายกฯ คนใหม่ โดยมีวิธีเดียวที่จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกรอบ คือ สส. หรือ สว. ต้องรวมกันเกิน 20% ของจำนวนที่มีอยู่ หรือประมาณ 97-98 คน เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 158 เพิ่ม (5) ไป ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งได้ต่อเนื่องจนกว่าจะเสียชีวิต และหากเสียชีวิตไปแล้วได้มอบหมายให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ก็เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเลย ถ้าจะเคลียร์แล้วก็ให้สุด ๆ ไปเลย" นายมงคลกิตติ์ กล่าว