ชายต่างชาติโพสต์ขอโทษ เผยไม่รู้จับปลานกแก้วผิดกฎหมาย อ้างเห็นมีวางขายในตลาด

 

จากกรณี ชาวต่างชาติรายหนึ่ง โพสต์คลิปติ๊กต็อก เป็นภาพถือปลาไหลมอเรย์ที่ถูกจับ พร้อมมืออีกข้างที่ถือปลานกแก้วร้อยเป็นพวง ประมาณ 5 ตัว อยู่บนเรือหัวโทง ซึ่งเป็นเรือนำเที่ยว สถานที่คือเกาะพีพี พร้อมระบุแคปชัน แปลเป็นภาษาไทยว่า
ต้องดำน้ำ 30 เมตรเพื่อจับตัวนี้ โดยใช้วิธีการจับปลา แบบยิงฉมวก สเปียร์ฟิชชิ่ง ซึ่งเป็นวิธีการตกปลา ที่ใช้ปืนลูกซอง และสลิงแบบยืดหยุ่นหรือปืนสเปียร์ที่ขับเคลื่อนด้วยแก๊สอัดเพื่อโจมตีปลา
หลังภาพเผยแพร่ไป ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

ต่อมา ชายชาวต่างชาติผู้อยู่ในคลิป ได้ชี้แจงว่า "ทุกคน ได้โปรดเข้าใจผมด้วย ผมเป็นนักจับปลามืออาชีพแบบยิงฉมวก ที่ตระเวนไปทั่วโลก เพื่อจับปลา และผมไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวในกลุ่ม (ที่จับปลาในเหตุการณ์นั้น) ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเหตุร้ายแรงเช่นนี้ ผมขอโทษสำหรับสิ่งที่ผมกระทำลงไป ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผมคิดว่า ผมสามารถทำแบบนี้ได้ เป็นเพราะว่าผมเห็น ปลานกแก้ว วางขายในตลาดครับ"

 

ขณะที่ นายฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้พอทราบแล้วว่าเรือลำดังกล่าวเป็นของใคร โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะพีพีแล้ว เพื่อให้ติดตามหาเจ้าของเรือ และสืบสวนหานักท่องเที่ยวที่ถือปลานกแก้ว เพื่อดำเนินคดีต่อไป เพราะการจับสัตว์น้ำในเขตอุทยานนั้นถือว่ามีความผิด

ทั้งนี้ ปลานกแก้ว เป็นปลาทะเลขนาดกลางชนิดหนึ่ง มีเกล็ดขนาดใหญ่ จะงอยมีปากยืดหดได้ ปากคล้ายนกแก้ว จึงเป็นที่มาของชื่อ เนื่องจากปลาชนิดนี้ มีรูปร่าง ลักษณะ และสีสันสวยงาม จึงมีผู้นิยมจับมาดูเล่น และนำมาเป็นอาหาร ทำให้มีจำนวนลดลง ทำให้ ปลานกแก้ว เป็นสัตว์ทะเลที่ต้องอนุรักษ์ เพราะปลานกแก้วมีถิ่นอาศัยอยู่ในแนวปะการัง และแนวปะการังเกือบทั้งหมดในประเทศไทยมีกฎหมายคุ้มครอง