สามีจะพาลูกชายไปหาแม่ซึ่งเป็นภรรยาเก่า ภรรยาใหม่จะขอไปด้วยแต่สามีไม่ยอมจึงเกาะประตูรถกระบะ สามีขับกระชากจนภรรยาใหม่หล่น ถูกล้อหลังทับเสียชีวิตกลางถนน

 

วันที่ 13 ส.ค. 2565 เมื่อเวลา 04.58 น. บริเวณหน้าหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ริมถนนสายศรีวารีน้อย -ลาดกระบัง ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ มีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้าน และมีลูกชายเดินตามมาขึ้นรถกรบะตู้ทึบที่จอดไว้หน้าบ้าน จากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา มีภรรยาเดินตามออกมาจากบ้านเพื่อหวังขึ้นรถของสามี แต่ขณะที่ฝ่ายภรรยากำลังจะเปิดประตูรถ รถของสามีก็วิ่งออกจากหมู่บ้านโดยมีภรรยาเกาะติดรถอยู่ด้วย และรถได้ขับพุ่งออกสู่ถนนในลักษณะกระชาก ทำให้ภรรยาซึ่งเกาะประตูฝั่งซ้ายมือหลุดจากตัวรถร่างถูกล้อหลังทับอย่างจังจนนอนแน่นิ่งกลางถนน

หลังเกิดเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิเดินทางมาตรวจสอบ พบว่า หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตอยู่กลางถนนโดยไม่พบรถกระบะแต่อย่างใด ขณะที่ลูกสาวของผู้เสียชีวิตร้องไห้เป็นที่เศร้าสลดแก่ผู้พบเห็น อย่างไรก็ตามทางครอบครัวรวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันวิจารณ์การทำงานของพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ที่ปล่อยให้ศพนอนรอร้อยเวรกว่า 2 ชั่วโมง โดยพนักงานสอบสวนได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุในช่วงเวลา 07.15 นาฬิกา และประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเก็บร่างผู้เสียชีวิตในเวลา 08.30 น. โดยทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นางสาวสุพัตรา อายุ 40 ปี เสียชีวิตในสภาพกะโหลกแตก มีร่องรอยล้อยางที่ใบหน้าขวาและตามเสื้อ นอกจากนั้นยังพบบาดแผลถลอกที่ขาทั้งสองข้าง

ด้านลูกสาวคนกลางของผู้เสียชีวิตวัย 16 ปี บอกทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมาตนเองและลูก ๆ คนอื่นของแม่จะอยู่กันคนละที่ จนกระทั่งวันแม่ที่ผ่านมา กลับมารวมกันเพื่อพากันไปเที่ยวพักผ่อน โดยแม่และพ่อใหม่ได้คบหาอยู่กินกันมาได้หลายปีแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีลูกติด ที่ผ่านมาไม่เคยมีความขัดแย้งหรือทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน จนกระทั่งน้องชายคนเล็กที่เป็นลูกติดฝ่ายพ่อเอ่ยปากบ่นหาถึงแม่ของน้องเนื่องในวันแม่ ทำให้แม่ของตนเองก็บ่นกับพ่อใหม่ว่าทำไมไม่สอนลูกเรื่องการเลี้ยงดูแลจากฝ่ายแม่ ซึ่งก็ดูแลอย่างดีเปรียบเสมือนแม่แท้ ๆ จึงทำให้พ่อกับแม่น้อยใจกันเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้มีปากเสียงอะไรกันจนแยกย้ายเข้านอน จนรุ่งเช้าทราบว่าพ่อจะไปส่งน้องชาย แม่ด้วยความเป็นห่วงจึงขอติดรถไปด้วย แต่พ่อไม่ยอมให้ไป ทำให้แม่เกาะรถพ่อออกมาจนเกิดเหตุดังกล่าว

ขณะที่ ลูกสาวคนโตซึ่งรับราชการทหารอากาศ หลังทราบเรื่องได้เดินทางจากดอนเมืองมาดูที่เกิดเหตุ ถึงกับเข่าทรุดและร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ โดยพยามติดต่อสอบถามสาเหตุกับฝ่ายพ่อเลี้ยง ซึ่งพ่อเลี้ยงระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และเอ่ยปากขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ด้าน ร.ต.ท. ปรเมศฐ์ เพียรศิลป์ รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวฝ่ายสามีแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ เบื้องต้นได้รวบรวมพยานหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและชันสูตรในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนข้อหาจะต้องรอสอบปากคำทั้งตัวสามีและพยานแวดล้อมอีกครั้ง