"อนุทิน" พูดสำเนียงใต้โชว์ บอกมีแฟนเป็นคนใต้ คบมา 1 ปีแล้ว วอนเลือกภูมิใจไทย โวรอบหน้าขอกวาดเก้าอี้ รมต. 10 กระทรวง พร้อมผุดนโยบาย "ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน" นำรายได้พัฒนาจังหวัดตัวเอง ขายฝันเพิ่มเงิน อสม. เป็น 2 พันบาท
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นำทัพปราศัยอ้อนคนกระบี่ขอให้เลือก สส.พรรคภูมิใจไทย ยกจังหวัด โดยระบุว่า วันนี้ ตนมาจาก กทม. ด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้มาพบพี่น้องชาวกระบี่ จากนั้นได้แนะนำตัว แต่ระหว่างแนะนำตัวนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หลุดพูดคำว่า "บ่" ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามาปราศรัยในพื้นที่ภาคใต้ จึงเปลี่ยนเป็นพูดสำเนียงใต้ โดยบอกว่า ตนมีแฟนเป็นคนใต้ ที่เพิ่งคบกันมา 1 ปี เลยพูดใต้ยังไม่ชัด แต่ถ้าคบกันไปนาน ๆ แล้วคนใต้ยังไม่เลือกพรรคภูมิใจไทยก็คงต้องลาออกแล้ว ทั้งนี้ ขอให้เลือก สส.กระบี่ ของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 3 คน และกาเลือกพรรคด้วย ก็จะได้ สส. รวมเป็น 4 คน จ.กระบี่ ต้องเจริญกว่านี้สิบเท่าร้อยเท่า แต่ถ้ามี 4 คน ยังทำประโยชน์ไม่ได้ จะไม่มีวันเรียกตัวเองว่าเป็นคนอีกต่อไป
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา พรรคได้เข้าไปในสภามีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล มี รมว.สาธารณสุข รมว.คมนาคม และ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เราตั้งใจทำงาน 3 กระทรวงนี้ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยว คมนาคม ที่เราได้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ ขอให้ท่านเลือกพรรคภูมิใจไทยเพิ่มมากขึ้นจาก 3 กระทรวงจะได้เป็น 10 กระทรวง จะได้ทำงานได้ครบทุกด้านมากขึ้น จ.กระบี่ เป็นจังหวัดเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย กระบี่ต้องทัดเทียมภูเก็ต โดยให้ จ.ภูเก็ต กระบี่ และพังงา เป็น 3 จังหวัดแกนนำกลุ่มอันดามัน
นายอนุทิน ยังกล่าวบนเวทีถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยเกณฑ์ อสม. มาร่วมงานในวันนี้ด้วยว่า "ก่อนมามีคนดูถูกเราว่า ผมมาต้องเกณฑ์ อสม.มาฟัง จะเกณฑ์ทำไม ผมต้องมาหา อสม. ไม่ใช่ อสม. มาหาผม อสม.คือหัวใจของ รมว.สาธารณสุข ถ้าไม่มี อสม.ก็เดินไม่ได้ ที่บอกว่าเกณฑ์มาไม่ใช่เรื่องจริง ท่านมาเพราะอยากเจอผมใช่หรือไม่ ตอนนี้รับเงินค่าตอบแทน 1,500 บาท มา 2 ปีแล้ว เราจะอยู่ที่เดิมทำไม มันต้องเพิ่มขึ้นเอาไปเลย 2,000 บาท เพราะ อสม.เป็นหมอคนแรก ทำงานให้บ้านเมืองนี้มากมาย ทำให้สุขภาพประชาชนดีขึ้น"
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า เราจะเสนอนโยบาย “ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน” ตัวอย่างเช่น จ.กระบี่ เสียภาษีให้รัฐ 100 บาท เราจะขอ 30% นำมาพัฒนาจังหวัดให้ภาษีตกมาถึงจังหวัด เป็นการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน นโยบายนี้ประชาชนสามารถสั่งให้ภาษีรัฐลงมาพัฒนาบ้านเกิดได้