เจ้าของบ้านในจังหวัดระยอง ถึงกับท้อถูกโจรงัดบ้านหลายครั้ง ข้าวของเสียหายทั้งกระจกแตก ตู้เสื้อผ้าพัง ประตูเหล็กบิดงอ ทั้งที่บ้านอยู่ใกล้ตู้ยามตำรวจ วอนไม่มีอะไรเหลือแล้ว ไม่ต้องมาแล้ว

วันที่ 15 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของบ้านว่าถูกขโมยงัดบ้านเสียหายจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว​ ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ภายในบ้านถูกคนร้ายงัดเข้ามาทางประตูเหล็กดัดจนประตูปิดเสียหาย ข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย รวมไปถึงตู้เสื้อผ้า กระจกภายในบ้านแตก พบมีดขอวางอยู่ที่พื้นบ้าน รวมกับเศษวัสดุที่แตกกระจายเกลื่อนพื้น

นางสะอิ้ง โพธิ์แก้ว อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนเองได้ออกจากบ้านไปกรีดยางเวลาประมาณ 01.00 น. ซึ่งสวนยางอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ขณะที่กรีดยางช่วงประมาณ 02.00 น. ตนเองและน้องสะใภ้ที่กรีดยางอยู่ด้วยกันสังเกตเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ดับไฟวิ่งมาวนเวียนอยู่บริเวณที่ตนเองนั้นกรีดยาง ลักษณะเหมือนมาดูลาดเลาว่าตนเองอยู่ที่สวนหรือไม่ ซึ่งน้องสะใภ้นึกเอะใจ ก็เลยพูดคุยกันแล้วตัดสินใจพากันกลับบ้าน พอเปิดประตูบ้านเข้าไปก็พบว่าด้านในบ้านมีลักษณะถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจายกระจกแตกเสียหาย ตู้เสื้อผ้าถูกฟันจนขาด สำรวจทรัพย์สินไม่มีอะไรสูญหายไป นอกจากเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ อาจเป็นเพราะเนื่องจากไม่มีทรัพย์สมบัติเหลือให้ขโมยอีกแล้วก็ได้

นางสะอิ้ง กล่าวอีกว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์แบบนี้ คือบ้านถูกงัดแล้วได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดไปกว่า 40,000 บาท ทีวี 2 เครื่อง กีต้าร์ 1 ตัว โดยได้แจ้งความไปแล้ว

และเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา โจรก็เข้ามาลักขโมยในลักษณะเดียวกันนี้อีก แต่ได้ไปเพียงกล้วยด่าง 2 ต้น​ ต้นกระท่อม 1 ต้น แล้วก็มีเสื้อผ้าของแฟนอีกครึ่งราว ซึ่งทางโจรได้รวบเอาไป

นางสะอิ้ง บอกว่า ครั้งนี้ตัวเองมาเร็วจึงทำให้คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินที่มีค่าอะไรไปนอกจากเสื้อผ้า

อย่างไรก็ตาม นางสะอิ้งเล่าด้วยความรู้สึกอัดอั้นว่า เหตุที่เกิดขึ้นนี้มันบ่อยเกินไป บ้านตนเองอยู่ใกล้กับตู้ยามตำรวจแท้ ๆ คนร้ายยังไม่เกรงกลัว ตนเองก็เข้าใจอยู่ว่าตำรวจมีน้อยดูแลไม่ทั่วถึง แต่ก็อยากจะวิงวอนให้ช่วยจับคนร้ายให้ได้ ทุกวันนี้รู้สึกเหนื่อยและท้อมาก อยากจะบอกถึงคนร้ายว่า "ไม่มีอะไรเหลือให้เอาอีกแล้วนะ คราวหน้าไม่ต้องเข้ามาแล้วนะ"

เบื้องต้น ​ตำ​รวจ​ สภ.บ้านกร่ำ จ.ระยอง ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี