ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล. และยกฟ้องจำเลยเพิ่มอีก 4 คน ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสถาบันการศึกษาฯ ส่วนจำเลยอื่นๆ ที่เหลือศาลพิพากษาจำคุกยืนตามศาลชั้นต้น
วันที่ 17 ส.ค. 2565 ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษา คดีทุจริตเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 11 (อัยการจังหวัดมีนบุรี) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 14 คน ประกอบด้วย นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ นางสาวอำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีตผู้อำนวยการส่วนการคลัง สจล. นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นางสาว จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ นางสมบัติ โสประดิษฐ์ นางระดม มัทธุจัด นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ นายภาดา บัวขาว นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล. นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดี นายสลุต ราชบุรี นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ
โดยโจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม, เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฟอกเงิน, สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต, สนับสนุนพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 264, 265, 266, 268, 335, พรบ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, 4, 8, 11 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 7, 10, 60
คดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาจำคุกจำเลยรวม 11 คน และยกฟ้องนายถวิล นายสมบัติ และนายภาดา
ขณะที่ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความของนายถวิล เปิดเผยว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกจำเลยคดีนี้ และให้ยกฟ้อง จำเลยเพิ่มอีก 4 คน ประกอบด้วย นายจริวัฒน์ จำเลยที่ 7 นายสรรพสิทธิ์ จำเลยที่ 10 นายสมพงษ์ จำเลยที่ 13 และนายธวัชชัย จำเลยที่ 14
ขณะที่ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องนายถวิล จำเลยที่ 9 นางสมบัติ จำเลยที่ 5 และนายภาดา จำเลยที่ 8
ส่วนคดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ยกฟ้องนายถวิล กรณีทุจริตเบิกเงิน สจล. กว่า 700 ล้านบาท ถือว่าคดีสิ้นสุดแล้วเนื่องจากอัยการไม่อุทธรณ์
นายสงกานต์ เปิดเผยว่า คดีนี้ มีข้อพิรุธตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากเงินของสถาบันการศึกษาถูกยักยอกไปก่อนที่นายถวิลจะมาดำรงตำแหน่งอธิการบดี แต่กลับโยนความผิดให้กับนายถวิล กล่าวหาว่า เป็นผู้ยักยอกคนเดียวทั้งหมด ซึ่งคดีนี้มีข้อพิรุธหลายกรณี เช่น การมอบอำนาจให้นักการภารโรงทำหน้าที่ในการเบิกจ่ายเงิน 150 ล้านบาทของสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
ดังนั้น จึงเรียกร้องให้ตำรวจสอบสวนกลาง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามารับผิดชอบในการสอบสวนดำเนินคดีเพิ่มเติม เนื่องจากเชื่อว่ายังมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกหลายคน
ส่วนการเรียกร้องความเป็นธรรม นายถวิล อยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนคดีและคำเบิกความคดีนี้ เพื่อประกอบการยื่นคำร้องตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้านนายภาดา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้อง เปิดเผยว่า มอบหมายให้ทนายความรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อฟ้องกลับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกล่าวหาทุกคน เพราะที่ผ่านมาชีวิตและการทำงานได้รับผลกระทบจากการกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตนี้ ซึ่งวันนี้ผ่านมา 4 ปี 8 เดือน ถือว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์และได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมแล้ว